รอยเตอร์ - รัฐบาลตุรกีประกาศล็อกดาวน์กรุงอังการา, อิสตันบูล และเมืองใหญ่ทั่วประเทศเป็นเวลา 48 ชั่วโมงตั้งแต่เที่ยงคืนวันศุกร์ (10 เม.ย.) หลังจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่พุ่งวันเดียวเกือบ 5,000 คน ขณะที่ยอดตายทั่วประเทศทะลุ 1,000 ศพ
คำสั่งล็อกดาวน์ของกระทรวงมหาดไทยจะมีผลบังคับใน 31 จังหวัดทั่วตุรกี เพิ่มมาตรการคุมเข้มจากเดิมที่ขอให้พลเมืองอายุต่ำกว่า 20 ปี และเกินกว่า 65 ปีเก็บตัวอยู่บ้าน
รัฐบาลอังการายังสั่งระงับเที่ยวบินระหว่างประเทศ, จำกัดการเดินทางภายในประเทศ, ปิดโรงเรียน บาร์ คาเฟ่ และงดการประกอบพิธีทางศาสนาที่รวมคนหมู่มาก ทว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังต้องออกไปทำงานเพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจขับเคลื่อนต่อไปได้
“เราขอให้พลเมืองใน 31 จังหวัดปฏิบัติตามคำสั่งปิดเมืองในช่วงสุดสัปดาห์ โดยไม่ต้องตื่นตระหนก” เฟห์เรตติน อัลตุน ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารของรัฐบาลตุรกี แถลงผ่านทวิตเตอร์
แม้รัฐบาลจะขอร้องให้ประชาชนยังคงปฏิบัติตามมาตรการ social-distancing ก่อนที่คำสั่งล็อคดาวน์จะมีผลบังคับ แต่ปรากฏว่าผู้คนจำนวนมากในนครอิสตันบูลต่างแห่ออกจากบ้านไปซื้ออาหารและเครื่องดื่มมากักตุน
ตุรกีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น 4,747 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 98 รายในรอบ 24 ชั่วโมง ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 47,029 ราย เสียชีวิต 1,006 ราย ตามฐานข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์เช้าวันนี้ (11 เม.ย.)
กระทรวงมหาดไทยตุรกีได้ชี้แจงรายละเอียดของคำสั่งล็อกดาวน์ โดยระบุว่าร้านขายขนมปัง, ร้านขายยา และสถานพยาบาลต่างๆ ยังสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ ส่วนบริษัทพลังงานที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์, บริษัทกระจายสินค้า และปั๊มน้ำมันบางแห่งก็จะได้รับอนุญาตให้เปิดทำการด้วย รวมถึงพนักงานที่ทำงานในภาคส่วนเหล่านี้ก็จะได้รับการยกเว้นจากคำสั่งล็อกดาวน์
ทั้งนี้ มาตรการปิดเมืองจะมีผลบังคับจนถึงเวลาเที่ยงคืนของวันอาทิตย์ (12)