เอเอฟพี/รอยเตอร์ - แอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ในวันจันทร์ (6 เม.ย.) เผยว่าเขาจะเพิ่มโทษปรับเป็น 1,000 ดอลลาร์ (ราว 32,000 บาท) สำหรับความผิดฐานละเมิดกฎระเบียบเว้นระยะห่างทางสังคมอันเข้มงวดของรัฐ ความเคลื่อนไหวมีขึ้นในขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ทั่วสหรัฐฯ เกิน 10,000 คนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“เหตุผลก็คือ มีชาวนิวยอร์กมากเกินไปที่ไม่จริงจังต่อกฎระเบียบนี้ มันไม่ใช่แค่ชีวิตของคุณ คุณไม่มีสิทธิ์เอาชีวิตคนอื่นไปเสี่ยง” คูโอโม กล่าวระหว่างแถลงข่าว พร้อมกับขยายเวลาล็อกดาวน์เมืองแห่งนี้ซึ่งเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐฯ ออกไปจนถึงช่วงปลายเดือน
คูโอโมบอกว่า อัตราการเสียชีวิตจากโควิด-19 ภายในรัฐ “ค่อนข้างทรงตัว” ในช่วง 2 วันที่่ผานมา แต่โรงเรียนต่างๆและธุรกิจที่ไม่จำเป็นทั้งหลายแหล่จะต้องปิดทำการต่อไปจนถึงวันที่ 29 เมษายน “มันไม่ใช่เวลาจะมาผ่อนปรน” เขากล่าว พร้อมเน้นว่า โทษปรับสำหรับการละเมิดคำสั่งเว้นระยะห่างทางสังคมจะถูกเพิ่มจาก 500 ดอลลาร์ เป็น 1,000 ดอลลาร์
ผู้ว่าการรัฐรายนี้เผยว่า โควิด-19 คร่าชีวิตผู้คนภายในรัฐของเขาไปแล้ว 4,758 คน จนถึงเช้าวันจันทร์ (6 เม.ย.) เพิ่มขึ้นจากวันอาทิตย์ (5 เม.ย.) 599 คน หลังจากก่อนหน้านี้ เมื่อวันเสาร์ (4 เม.ย.) นิวยอร์ก พบผู้เสียชีวิตในวันเดียวถึง 630 คน ถือเป็นยอดเสียชีวิตรายวันสูงสุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาด
คูโอมูบอกว่า จำนวนผู้เสียชีวิตรายวันทรงตัวนับตั้งแต่นั้น และชี้ว่า รัฐแห่งนี้อาจอยู่ ณ จุดสูงสุดของวิกฤตแล้ว “หวังว่ามันจะเป็นเช่นนี้ แต่ยังไม่บทสรุป” เขากล่าวพร้อมเตือนว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นอีก
“มันจะเป็นความผิดพลาด หากผ่อนปรนมาตรการจำกัดง่ายเกินไป ถ้าส่วนโค้งของกราฟลดลงก็เพราะว่าอัตราการติดเชื้อลดลง และถ้าอัตราการติดเชื้อลดลง ก็เพราะว่าการเว้นระยะห่างทางสังคมกำลังได้ผล” เขากล่าว “ถ้าเราคงที่แล้ว มันก็คงเป็นการทรงตัวอยู่ในระดับสูงและยังมีความตึงเครียดมหาศาลในระบบสาธารณสุข”
นิวยอร์กถือเป็นรัฐที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 หนักหน่วงที่สุดของสหรัฐฯ โดยจากข้อมูลล่าสุดของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ พบว่า ในจำนวนผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 347,300 คน ในอเมริกา มีอยู่กว่า 131,000 คนอยู่ในนิวยอร์ก
ขณะเดียวกัน ข้อมูลของมหาวิทยาลัย ฮอปกินส์ ยังพบด้วยว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากกว่า 10,000 คน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดในประเทศแห่งนี้ในช่วงกลายเดือนมกราคม โดยยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 10,335 คน
สหรัฐฯเป็นชาติอันดับ 3 ของโลกที่มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากที่สุด รองจาก อิตาลี 16,523 คน และสเปน 13,169 คน อย่างไรก็ตาม พวกผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ทำเนียบขาวคาดหมายว่าจะมีอเมริกันชนราวๆ 100,000 ถึง 240,000 คนเสียชีวิตในโรคระบาดใหญ่นี้ แม้ประชาชนปฏิบัติตามคำสั่งให้อยู่แต่ในบ้านก็ตาม