เอเจนซีส์ – “อาเบะ” ถูกถล่มยับบนโซเชียล หลังเปิดแผนส่งหน้ากากผ้าให้ประชาชนครอบครัวละ 2 ชิ้น แทนการประกาศสถานการณ์โรคระบาดฉุกเฉินตามที่สังคมเรียกร้อง ตอกย้ำความไม่พอใจมากขึ้นของชาวญี่ปุ่นที่มีต่อมาตรการจัดการวิกฤตของรัฐบาล และทำให้แฮชแท็ก “อาเบโนมาสก์” ติดเทรนด์ทวิตเตอร์
การประกาศแจกหน้ากากผ้าของนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ เมื่อวันพุธ (1 เม.ย.) มีขึ้นหลังจากที่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเตือนว่า ญี่ปุ่นใกล้เข้าสู่วิกฤตการแพทย์ ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นทั่วประเทศ โดยเฉพาะในโตเกียว และ อาเบะ กล่าวว่า ญี่ปุ่นเพียงตรึงสถานการณ์ในการต่อสู้กับไวรัสไว้เท่านั้น
ภายใต้คำประกาศล่าสุด รัฐบาลจะเริ่มจัดส่งหน้ากากผ้าที่สามารถซักและนำกลับมาใช้ได้ให้ครัวเรือนละ 2 ชิ้น ในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า โดยจะส่งไปยังพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นก่อน
อาเบะ กล่าวว่า การดำเนินการนี้เป็นการตอบสนองความต้องการหน้ากากอนามัยที่เพิ่มขึ้นปุบปับ และเสริมว่า กำลังการผลิตหน้ากากแบบใช้แล้วทิ้งภายในประเทศจะเพิ่มขึ้นเป็น 700 ล้านชิ้น ในเดือนนี้ จาก 600 ล้านชิ้นในเดือนมีนาคม
ทว่า แผนการของอาเบะกลับถูกโจมตีอย่างรุนแรงในโลกโซเชียล แฮชแท็ก “อาเบโนมาสก์” ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ตั้งแต่เช้าวันพฤหัสฯ (2) นอกจากนี้ ยังมีการแต่งภาพอาเบะสวมหน้ากากผ้าสองชิ้นๆ หนึ่งปิดปาก อีกชิ้นปิดตา เผยแพร่อยู่ในโลกออนไลน์
เคนทาโร อิวาตะ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อของมหาวิทยาลัยโกเบ ทวีตว่า ข้อเสนอดังกล่าวเป็นการผลาญเงินโดยชี้ว่า โรงพยาบาลต่างๆ ไม่มีทางยอมให้ใช้หน้ากากผ้าแบบที่อาเบะเสนอเด็ดขาด
ชาวญี่ปุ่นหลายคนยังงุนงงว่า ครอบครัวที่มีสมาชิก 2 คนจะทำอย่างไร ในเมื่อได้รับแจกหน้ากากเพียง 2 ชิ้น และบนโซเชียลมีเดีย มีการแชร์การ์ตูนที่เป็นภาพครอบครัวที่มีสมาชิกหลายคนยืนเรียงกันโดยคนที่อยู่หัวแถวสวมหน้ากาก แต่สายคล้องหูไปคล้องอยู่ที่คนท้ายสุดของแถว
จังหวะเวลาในการประกาศยังทำให้ผู้ใช้ทวิตเตอร์บางคนสับสนว่า เป็นเรื่องตลกในวันเมษาหน้าโง่ 1 เมษายน หรือเปล่า
บ้างตั้งคำถามว่า มาตรการนี้จะเสียงบประมาณเท่าไร ซึ่งตามคำประกาศของอาเบะนั้น จะมีการแจกหน้ากาก 100 ล้านชิ้นให้ประชาชนกว่า 50 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ
ผู้ใช้ทวิตเตอร์คนหนึ่ง บอกว่า ไม่ขอรับหน้ากากผ้าเพราะทำเองได้ แต่อยากให้รัฐบาลนำงบประมาณไปใช้จ่ายในด้านอื่นมากกว่า
วันพฤหัสฯ โยชิฮิเดะ ซูงะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี แถลงว่า ต้นทุนหน้ากากผ้าที่จะแจกอยู่ที่ชิ้นละประมาณ 1.86 ดอลลาร์ เท่ากับว่า มาตรการนี้จะมีต้นทุนทั้งหมด 372 ล้านดอลลาร์ ไม่รวมค่าจัดส่ง
ซูงะ สำทับว่า มาตรการนี้จะช่วยลดความต้องการหน้ากากอนามัยลงได้บ้าง
นอกจากนั้น บรรดารัฐมนตรี รวมถึงอาเบะ ต่างเห็นตรงกันว่า ยังไม่ถึงเวลาในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
อย่างไรก็ดี แม้การระบาดในญี่ปุ่นยังถือว่า เล็กน้อยเมื่อเทียบกับที่อเมริกา ยุโรป และจีน แต่การที่จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 2,500 คน และผู้เสียชีวิต 70 คน ทำให้มีความกังวลกันมากขึ้น
อนึ่ง แม้ผู้เชี่ยวชาญยังมีความคิดเห็นขัดแย้งเรื่องประโยชน์ของหน้ากาก แต่สำหรับคนญี่ปุ่นนั้นนิยมสวมหน้ากากกันก่อนที่ไวรัสโคโรนาจะระบาดด้วยซ้ำ โดยเฉพาะระหว่างที่โรคหวัดและไข้ละอองฟางระบาด และหลังจากที่โควิด-19 ระบาด หน้ากากจึงขาดแคลนอย่างหนักแม้รัฐบาลประกาศเพิ่มกำลังผลิตก็ตาม