เอเจนซีส์ - นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น ระบุในวันพฤหัสบดี (26 มี.ค.) ว่า ญี่ปุ่นจะขอให้ชาวต่างชาติและพลเมืองญี่ปุ่นที่เดินทางมาจากประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันออกกลาง และ แอฟริกา ให้ทำการกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ตามมาตรการควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กับประเทศในตะวันออกกลาง และแอฟริกา ยังถูกขอให้งดใช้บริการระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ
มาตรการลักษณะเดียวกันนี้ มีการใช้อยู่แล้วสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากจีน เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา และอีกหลายประเทศในยุโรป
ขณะเดียวกัน ก็มีรายงานว่า พลเมืองชาวญี่ปุ่นหลายร้อยคนยังคงติดค้างอยู่ในต่างประเทศ เพราะมาตรการจำกัดการเดินทางเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19
กระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่น ระบุในวันพฤหัสบดี (26 มี.ค.) ว่า มีพลเมืองญี่ปุ่นหลายร้อยคนที่ยังคงติดอยู่ต่างแดนในตอนนี้ อันเนื่องมาจากข้อจำกัดในการเดินทางเพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโคโรนา
เจ้าหน้าที่ของกระทรวงฯ บอกว่า ยังไม่สามารถระบุจำนวนที่แน่ชัดได้ว่ามีมากเท่าไหร่ที่ยังติดอยู่ในต่างประเทศ เพราะตัวเลขมีความผันผวนตามสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม พลเมืองญี่ปุ่นเหล่านี้กระจายตัวอยู่ในกว่า 60 ประเทศ
ไวรัสโควิด-19 มีการระบาดทั่วอเมริกาเหนือ ยุโรป รวมถึงส่วนอื่นของโลก มีหลายประเทศที่ปิดพรมแดนและออกคำสั่งล็อกดาวน์ต่อพลเมืองของตนเอง
มีพลเมืองชาวญี่ปุ่นประมาณ 260 ราย ที่ติดอยู่ในเปรู ซึ่งที่นั่นได้ห้ามเที่ยวบินระหว่างประเทศขึ้นบินตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่กำลังคาดหวังว่าจะได้กลับบ้านด้วยเครื่องบินเช่าเหมาลำที่จัดหาโดยหน่วยงานด้านการท่องเที่ยว
มีชาวญี่ปุ่นอีกประมาณ 120 ราย ที่อยู่ในอุซเบกิสถาน และไม่สามารถกลับบ้านได้ แต่ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ย้ายไปอาศัยอยู่ที่นั่น คนเหล่านี้อาจจะได้โดยสารเครื่องบินเช่าเหมาลำกลับญี่ปุ่นในช่วงต้นเดือนเมษายน จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ