รอยเตอร์ - สิงคโปร์ยืนยันมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เสียชีวิต 2 รายแรกของประเทศในวันนี้ (21 มี.ค.) ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกขยับพุ่งกว่า 275,000 คน เสียชีวิตแล้วกว่า 11,000 คน
กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์แถลงว่า ผู้ป่วยหญิงชาวสิงคโปร์วัย 75 ปี และชายชาวอินโดนีเซียวัย 64 ปี เสียชีวิตลงเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
เกาะศูนย์กลางธุรกิจแห่งนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 385 ราย และสามารถรักษาชีวิตผู้ป่วยเอาไว้ได้เรื่อยมาตั้งแต่เริ่มพบการแพร่ระบาดในช่วงปลายเดือน ม.ค.
“ผมทราบว่าชาวสิงคโปร์คงจะรู้สึกกังวล แต่เราจะต้องใช้ความกล้าหาญ และอย่าปล่อยให้ความกลัวเข้าครอบงำ” กัน กิม ยง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน
จากข้อมูลในวันศุกร์ (20) มีผู้ติดเชื้อในสิงคโปร์ที่ได้รับการรักษาจนหายขาดแล้ว 131 ราย
หญิงสูงวัยชาวสิงคโปร์มีประวัติเป็นโรคหัวใจเรื้อรังและความดันโลหิตสูง เธอรักษาตัวอยู่ในหอผู้ป่วยหนักนานถึง 26 วันก่อนจะเสียชีวิตลง
ในส่วนของชายชาวอิเหนานั้นเคยรักษาอาการปอดบวมที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในอินโดนีเซีย และมีประวัติเป็นโรคหัวใจเช่นกัน เขาเดินทางเข้าสิงคโปร์เมื่อวันที่ 13 มี.ค. และรักษาตัวในหอผู้ป่วยหนักอยู่ 9 วันจึงเสียชีวิต
รัฐบาลสิงคโปร์ได้ยกระดับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) อย่างเข้มงวด ซึ่งรวมถึงการสั่งห้ามชุมนุมเกินกว่า 250 คน และแนะนำให้บริษัทเอกชนอนุญาตให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน
ผู้ที่เดินทางเข้าสิงคโปร์ไม่ว่าจะเป็นพลเมืองหรือชาวต่างชาติจะต้องกักกันตนเองเป็นเวลา 14 วัน นอกจากนี้รัฐบาลยังขอร้องให้พลเมืองงดเดินทางไปต่างประเทศเพื่อป้องกันการนำเข้าไวรัส
จากฐานข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์เมื่อเวลา 12.30 น. ตามเวลาในไทย ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกขยับขึ้นไปอยู่ที่ 275,434 คน เสียชีวิต 11,399 คน โดยจีนยังคงรั้งแชมป์ประเทศที่พบผู้ติดเชื้อมากสุด 81,286 คน ตามมาด้วยอิตาลี 47,021 คน และสเปน 21,571 คน ส่วนเยอรมนีขยับขึ้นมาเป็นที่ 4 ของโลกด้วยตัวเลขผู้ติดเชื้อ 19,848 คน ขณะที่อิหร่านและสหรัฐฯ มียอดผู้ติดเชื้อสูสีอยู่ที่ 19,644 และ 19,624 คนตามลำดับ