เอเจนซีส์ - วันนี้ (19 มี.ค.) มีรายงานว่า มิเชล บาร์นิเยร์ (Michel Barnier) ผู้แทนทีมเจรจา BREXIT ของสหภาพยุโรป ติดเชื้อไวรัสโคโรนา คาดการเจรจาการค้ากับอังกฤษต้องล่าช้าออกไป ด้านอิตาลีประกาศขยายระยะเวลาการปิดตายยาวไปจนถึงเมษายน ส่วนฝรั่งเศสขยายระยะเวลาปิดตายเกิน 2 สัปดาห์ เร่งหาหน้ากากอนามัยเพิ่ม 30 ล้านชิ้นให้แพทย์พยาบาลใช้ ส่วนที่อิตาลีพบมีเจ้าหน้าที่การแพทย์ติดเชื้อโคโรนาไวรัสไปแล้ว 2,629 คน
CNN สื่อสหรัฐฯรายงานวันนี้ (19 มี.ค.) ว่า มิเชล บาร์นิเยร์ (Michel Barnier) ผู้แทนทีมเจรจา BREXIT ของสหภาพยุโรปแถลงด้วยตัวเองผ่านทางทวิตเตอร์ในวันพฤหัสบดี(19)ว่า เขาได้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา แต่ยังกล่าวว่าตัวเองยังคงมีสุขภาพที่ดีและมีขวัญกำลังใจ
“ผมต้องการที่จะแจ้งให้คุณทราบว่าผมมีการติดเชื้อโรคโควิด-19 เป็นบวก ผมสบายดีและมีขวัญกำลังใจ ผมได้ทำตามคำแนะนำต่างๆ ในฐานะทีมของผม” และเสริมต่อว่า สำหรับกลุ่มผู้ติดเชื้อแล้ว และกลุ่มที่อยู่ในระหว่างการกักกันโรค พวกเราจะผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกัน”
นอกจากนี้ บาร์นิเยร์ยังได้แสดงวิดีโอคลิปของตัวเองที่ถูกถ่ายจากที่พักและเขาได้กล่าวแสดงความชื่นชมต่อบรรดาเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ทั้งหลายที่ปฏิบัติหน้าที่ และได้ส่งใจไปยังครอบครัวของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในการโพสต์หัวหน้าทีมเจรจาการค้าฝั่งอียูยังได้กล่าวไปถึงหนังสือตัวเองที่เขาได้เขียนขึ้นชื่อ Chacun Pour Tous หรือ แต่ละคนเพื่อทั้งหมด เกี่ยวข้องกับภัยคุกคามทางสิ่งแวดล้อมซึ่งบาร์นิเยร์กล่าวว่า มันสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษออกมาแสดงความเห็นถึงข่าวการติดเชื้อของบาร์นิเยร์ ว่า น่าจะกระทบต่อการเจรจาการค้าระหว่างอังกฤษและสหภาพยุโรปที่ในปัจจุบันนี้ล่าช้าแต่เดิมอยู่แล้ว
ทั้งนี้ พบว่า สัปดาห์นี้เป็นการเจรจาการค้ารอบ 2 แต่ได้ถูกสั่งยกเลิกในวันอังคาร (17) รวมไปถึงการประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ที่ได้มีการกำหนดมาก่อนหน้า ส่วนการเจรจารอบ 3 จะมีขึ้นในวันที่ 6 เม.ย ซึ่งกลายเป็นสิ่งที่ยังตั้งข้อสงสัย ส่วนการเจรจารอบที่ 4 จะมีในวันที่ 27 เม.ย และวันที่ 13 พ.ค. ตามลำดับ
เดลีเมลสื่ออังกฤษรายงานว่า อิตาลีล่าสุดออกมาประกาศเพิ่มระยะเวลาการปิดเมืองออกไปจนถึงเมษายน เกิดขึ้นหลังในช่วงคืนวันพุธ (18) ที่ผ่านมา อิตาลีเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อเสียชีวิตในวันเดียวสูงถึงเกือบ 500 คน ทั้งนี้ พบว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรวมล่าสุดของอิตาลีอยู่ที่ 35,713 คน และเสียชีวิตอีก 2,978 คน จำนวนผู้ที่หายป่วย 4,025 คน
เดลีเมล ยังชี้ว่า นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้ให้บริการทางแพทย์ในอิตาลีติดเชื้อไวรัสโคโรนาไม่ต่ำกว่า 2,600 คน เป็นตัวเลขที่ออกมาจากมูลนิธิ Gimbe foundation โดยประธานของมูลนิธิ นีโน คาร์ตาเบลล็อตตา (Nino Cartabellotta) ชี้ว่า จำนวนเจ้าหน้าที่การแพทย์อิตาลีติดเชื้อ 2,629 คน หมายความว่า มีจำนวนผู้ให้บริการทางการแพทย์อิตาลีเกือบ 0.3% ติดเชื้อโควิด-19 และต้องนำตัวคนเหล่านี้ออกไปเพื่อกักกันโรค ทั้งๆ ที่ในสถานการณ์เช่นนี้พวกเขาและเธอเป็นที่ต้องการมากที่สุด
แต่การออกมาแสดงความเห็นของคาร์ตาเบลล็อตตานั้นเมื่อเปรียบเทียบกับสหรัฐฯเมื่อพบว่า วันนี้ (19) ทางศูนย์ควบคุมโรคและการป้องกันสหรัฐฯ CDC ได้ออกมาเปลี่ยนแปลงนโยบายการปฏิบัติ
โดยอนุญาตให้เจ้าหน้าที่การแพทย์ที่ติดเชื้อโควิด-19 ยังคงมาทำงานได้แต่มีข้อกำหนดว่าคนเหล่านี้ต้องสวมหน้ากากระหว่างปฎิบัติหน้าที่ โดยให้เหตุผลว่ามาจากปัญหาหน้ากากอนามัยไม่พอและจำนวนเจ้าหน้าที่การแพทย์นั้นขาดแคลน
CDC สหรัฐฯยังระบุเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากหน้ากากอนามัยแล้วผู้ทำงานทางการแพทย์ยังสมารถใช้ผ้าพันคอแทนได้
ซึ่งการปิดตายอิตาลีในวันนี้ (19) นายกรัฐมนตรี จูเซปเป กอนเต (Giuseppe Conte) กล่าวยอมรับว่า คำสั่งปิดเมืองที่เคยเริ่มใช้มาตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. จะดำเนินต่อไปหลังจากวันที่ 3 เม.ย.ไปแล้ว
ส่วนที่ฝรั่งเศสได้มีการขยายการปิดจากแต่เดิม 2 สัปดาห์เช่นกันจากที่ได้เริ่มต้นมาตั้งแต่วันอังคาร (17) ซึ่งเมื่อวานนี้ (18) ประธานาธิบดี เอ็มมานูแอล มาครง ของฝรั่งเศส ได้ออกมาเรียกร้องให้บริษัทและพนักงานทำตามข้อกำหนดความปลอดภัยทางสาธารณสุข จากที่อาจจะต้องขยายการปิดเมืองออกไปส่งผลทำให้ทางกระทรวงสาธารณสุขของฝรั่งเศสได้จัดเตรียมหน้าการอนามัยจำนวน 30 ล้านชิ้น ให้กับเจ้าหน้าที่การแพทย์ โดยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศสยืนยันว่า ได้รับหน้ากากอนามัยแล้วในวันพฤหัสบดี (18) อ้างอิงตัวจาก CNN
โดยทาง Genevieve Chene หัวหน้าสำนักงานสาธารณสุขฝรั่งเศสได้ออกมายืนยันว่า ต้องใช้เวลาราว 2-4 สัปดาห์สำหรับการควบคุมการระบาดในประเทศ
ทางรัฐบาลฝรั่งเศสยังได้เดินหน้าหาห้องพักโรงแรมสำหรับกลุ่มผู้เร่ร่อนสำหรับช่วงเวลานี้ พบว่า มีห้องจำนวนไม่ต่ำกว่า 170 ห้อง ในกรุงปารีสนั้น สามารถถูกเปลี่ยนให้เป็นที่พักได้ภายในสุดสัปดาห์นี้ และยังมีอีก 80 แห่งทั่วฝรั่งเศสที่รัฐบาลมาครงต้องการใช้เพื่อให้เป็นที่พักแก่กลุ่มผู้เร่ร่อนที่คาดว่าจะมีจำนวน 250,000 คน