เอเอฟพี - ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ประกาศปิดพรมแดน ห้ามผู้ที่ไม่มีถิ่นพำนัก (non-residents) เดินทางเข้าประเทศในวันนี้ (19 มี.ค.) ซึ่งถือเป็นมาตรการขั้นเด็ดขาด เพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
นายกรัฐมนตรี สก็อตต์ มอร์ริสัน แห่งออสเตรเลียประกาศห้ามผู้ที่ไม่ใช่พลเมืองและไม่มีถิ่นพำนักถาวรในออสเตรเลียเดินทางเข้าประเทศตั้งแต่เวลา 21.00 น. ของวันพรุ่งนี้ (20 มี.ค.)
มาตรการเดียวกันนี้ได้ถูกประกาศใช้โดยนายกรัฐมนตรี จาซินดา อาร์เดิร์น แห่งนิวซีแลนด์ ซึ่งยอมรับว่า “นี่เป็นมาตรการที่ไม่ปกติ” และ “ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์แดนกีวีที่รัฐบาลใช้อำนาจสั่งปิดพรมแดน”
คำสั่งแบนชาวต่างชาติของนิวซีแลนด์จะเริ่มมีผลบังคับตั้งแต่เที่ยงคืนของวันนี้ (19)
ทั้ง 2 ประเทศยังมีการบังคับใช้ข้อจำกัดอื่นๆ เพื่อยับยั้งโรคระบาด แต่ยังไม่ถึงขั้นปิดโรงเรียนหรือใช้มาตรการ ‘ล็อคดาวน์’ ปิดเมือง
ผู้กำหนดนโยบายหวังว่า การงดรับชาวต่างชาติจะช่วยลดอัตราการติดเชื้อภายในประเทศ และหลีกเลี่ยงความจำเป็นที่จะต้องใช้มาตรการที่เข้มงวดยิ่งขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตของประชาชนในอีกหลายเดือนข้างหน้า
ออสเตรเลียมียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมอยู่ที่ 642 ราย ส่วนนิวซีแลนด์พบผู้ป่วยเพียง 28 ราย
มอร์ริสัน ระบุว่า เคสผู้ป่วยราว 80% เกิดจากใครบางคนที่ติดเชื้อไวรัสมาจากต่างประเทศ หรือเคยสัมผัสโดยตรงกับผู้ติดเชื้อที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ
ผลสำรวจความคิดเห็นเมื่อเร็วๆ นี้ พบว่า ชาวออสซี่ ร้อยละ 69 เห็นด้วยกับมาตรการปิดพรมแดน
ด้านนายกฯ หญิงกีวี ระบุว่า คำสั่งแบนนี้จะมีผลครอบคลุมถึงผู้ที่ถือวีซ่าชั่วคราวด้วย
“การตัดสินใจของเราวันนี้จะทำให้นักท่องเที่ยว หรือผู้ที่ถือวีซ่าชั่วคราว เช่น นักศึกษาหรือแรงงานต่างชาติ ไม่สามารถเดินทางเข้ามายังนิวซีแลนด์ได้”