เอเอฟพี - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (16 มี.ค.) ระบุว่าโรคระบาดใหญ่โควิด-19 ในอเมริกา อาจสิ้นสุดลงในช่วงสิ้นเดือนกรกฎาคม ขณะที่มันคร่าชีวิตผู้คนหลายพันและนำพาวิถีการดำรงชีวิตของผู้คนในประเทศต่างๆ ทั่วโลกตกอยู่ในภาวะชะงักงัน
ผู้นำสหรัฐฯ บอกกับอเมริกันชนให้เตรียมพร้อมรับมือกับการต่อสู้กับโรคระบาดใหญ่ที่อาจลากยาวหลายเดือน “ถ้าเราทำได้ดี ว่ากันว่าคงราวๆ เดือนกรกฎาคม-สิงหาคม” ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวระหว่างการแถลงสรุปประจำวันของคณะทำงานพิเศษด้านโรคระบาดใหญ่ของทำเนียบขาว พร้อมเผยว่าเขาอาจร้องขอให้กองทัพช่วยสร้างโรงพยาบาลชั่วคราวเพื่อรับมือกับผู้ป่วยที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก
นอกจากนี้แล้ว เขายอมรับด้วยว่าบางทีสหรัฐฯ กำลังดิ่งสู่ภาวะถดถอยจากผลกระทบการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่
อีกด้านหนึ่ง ทรัมป์บอกว่าการเลื่อนศึกหยั่งเสียงชิงตัวแทนพรรคที่กำหนดไว้ในวันจันทร์ (16 มี.ค.) นั้น ไม่มีความจำเป็น แม้ผู้ว่าการรัฐโอไฮโอเรียกร้องให้เลื่อนศึกหยั่งเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีของรัฐออกไปจากเดิมที่กำหนดไว้ในวันอังคาร (17 มี.ค.)
“การเลื่อนเลือกตั้งไม่ใช่สิ่งดี การเลื่อนเลือกตั้งไม่มีความจำเป็น”
คำแถลงของทรัมป์มีขึ้นหลังจากเขาร่วมประชุมทางไกลฉุกเฉินกับบรรดาผู้นำประเทศมั่งคั่งของโลก ประสานงานตอบสนองต่อโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดข้ามพรมแดนอย่างรวดเร็ว ฉีกเศรษฐกิจเป็นชิ้นๆ และกำลังคร่าชีวิตผู้คนจำนวนมาก
“โรคระบาดใหญ่โควิด-19 เป็นเรื่องน่าเศร้าของมนุษย์และเป็นวิกฤตสาธารณสุขโลก และยังเป็นความเสี่ยงใหญ่โลกต่อเศรษฐกิจโลกด้วย" ถ้อยแถลงจากอังกฤษ, แคนาดา, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ
“เรามุ่งมั่นที่จะใช้มาตรการแห่งความร่วมมือหรืออะไรก็ตามที่จำเป็น ใช้เครื่องมือทางนโยบายทุกอย่าง เพื่อบรรลุเป้าหมายเติบโตอย่างแข็งแกร่งในเศรษฐกิจ จี 7และป้องกับความเสี่ยงขาลง”
การประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นไม่นาน หลังองค์การอนามัยโลกเรียกร้องให้ทำการตรวจบุคคลต้องสงสัยติดเชื้อโควิด-19 ทุกเคส บางอย่างที่จะทำให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อพุ่งทะยาน “คุณไม่อาจสู้กับไฟขณะปิดตา” เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกกล่าว “ตรวจ, ตรวจ และตวจ ตรวจทุกเคสต้องสงสัย”
เทดรอสบอกว่า ตอนนี้รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตในที่อื่นๆ ของโลกแซงหน้าจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่จีนเป็นดินแดนที่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อุบัติขึ้นก่อนลุกลามไปทั่วโลก
ทั้งนี้ อิตาลี ชาติที่ได้รับผลกระทบหนักหน่วงที่สุดในยุโรป แถลงยอดผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้นอีกวัน ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตตอนนี้เพิ่มเป็นมากกว่า 2,000 คนแล้ว