รอยเตอร์ - กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนเลื่อนการจัดกิจกรรมที่รวมคนหมู่มาก หลังพบเคสผู้ติดเชื้อโวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ‘โควิด-19’ อย่างน้อย 12 ราย ที่เชื่อมโยงกับงานชุมนุมทางศาสนาในกรุงกัวลาลัมเปอร์ซึ่งมีมุสลิมจากหลายประเทศเข้าร่วมราว 10,000 คน
มาเลเซียมีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วประเทศแล้วอย่างน้อย 149 ราย และเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามพลเมืองราว 5,000 คนที่ไปเข้าร่วมงานชุมนุมผู้เผยแผ่ศาสนาอิสลาม ซึ่งจัดขึ้นที่มัสยิดชานกรุงกัวลาลัมเปอร์ระหว่างวันที่ 28 ก.พ.- 1 มี.ค. ที่ผ่านมา
กระทรวงสาธารณสุขเสือเหลืองได้แถลงผ่านทวิตเตอร์วันนี้ (12 มี.ค.) โดยเรียกร้องให้ทุกภาคส่วน “เลื่อนการจัดกิจกรรมทุกประเภทที่ต้องรวมคนหมู่มาก เพื่อลดโอกาสการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19”
ผู้ติดเชื้อ 11 คนเป็นชาวบรูไนที่เคยมาร่วมงานชุมนุมดังกล่าว และถือเป็นผู้ติดเชื้อกลุ่มแรกของบรูไนด้วย โดยกิจกรรมที่ว่านี้มีชาวมุสลิมบรูไนเข้าร่วมประมาณ 90 คน
ผู้ป่วยชาวบรูไนรายแรกเป็นชายวัย 53 ปี ที่เดินทางกลับจากกัวลาลัมเปอร์เมื่อวันที่ 3 มี.ค. และเริ่มแสดงอาการป่วยในอีก 4 วันถัดมา
สำหรับผู้ป่วยรายที่ 12 เป็นพลเมืองมาเลเซียเอง
รัฐบาลสิงคโปร์ก็ยืนยันว่ากำลังตรวจสอบและติดตามพลเมืองที่เคยไปร่วมงานชุมนุมดังกล่าวในมาเลเซีย เพื่อสกัดการระบาดของไวรัส รัฐมนตรีกระทรวงกิจการศาสนาของมาเลเซียได้ออกเอกสารแนะนำวิธีปฏิบัติสำหรับการละหมาดวันศุกร์ที่มัสยิด ซึ่งรวมถึงการลดความยาวของบทเทศนา (คุตบะห์) และให้ผู้ละหมาดชำระล้างร่างกายให้เรียบร้อยก่อนออกจากบ้านถ้าสามารถกระทำได้