รอยเตอร์ - เจย์ อินสลี ผู้ว่าการรัฐวอชิงตัน เปิดเผยในวันอังคาร (10 มี.ค.) กำลังพิจารณาใช้มาตรการต่างๆ ที่จำเป็นเพื่อป้องกันการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ภายในรัฐแห่งนี้ ด้วยเชื่อว่า ตัวเลขอาจแตะระดับ 64,000 คน ภายใน 8 สัปดาห์ หากไม่ดำเนินการอย่างจริงจัง
อินสลี เผยว่า พวกผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยา บอกกับเขาว่า มีความเป็นไปได้ที่ในปัจจุบันจะมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในวอชิงตัน สูงสุดราวๆ 500 ถึง 20,000 คน และด้วยอัตราการแพร่ระบาดของโรคทางเดินหายใจติดต่อง่ายนี้ ตัวเลขผู้ติดเชื้ออาจเพิ่มขึ้นเท่าตัวในทุก 5 ถึง 8 วัน
จนถึงตอนนี้รัฐวอชิงตัน ยืนยันพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 162 คน ในนั้นเสียชีวิต 23 ราย แต่พวกผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่แท้จริงนั้นสูงกว่านี้มาก “ไม่ว่าจะเป็น 500 หรือ 1,500 หรือ 2,000 คน ในวันนี้ มันจะมุ่งสู่จำนวนมหาศาลอย่างรวดเร็ว” อินสลี เตือน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เขากำลังพิจารณาใช้มาตรการต่างๆ ที่จำเป็นหรือไม่ เพื่อชะลอการแพร่รบาด ทางอินสลีตอบว่าอย่าได้แปลกใจเลยหากว่าเขาจะข่าวบางอย่างมาแจ้งให้ทราบในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
“ดูเหมือนจำนวนคนติดเชื้อโรคระบาดนี้จะเพิ่มขึ้น 2 เท่าในรัฐวอชิงตัน จนกว่าเราจะดำเนินการอย่างจริงจังบางอย่าง” เขาบอกกับผู้สื่อข่าว “ถ้ามีผู้ติดเชื้อ 1,000 คน ในวันนี้ ใน 7 ถึง 8 สัปดาห์ ผู้ติดเชื้อในรัฐวอชิงตันอาจเพิ่มขึ้นเป็น 64,000 คน หากว่าเราไม่ลงมือชะลอโรคร้ายนี้” อินสลี กล่าวเตือน
หลังเสร็จสิ้นการแถลงของอินสลี สื่อมวลชนหลายสำนักรายงานข่าวอ้างคำพูดของผู้ว่าการรัฐรายนี้บ่งชี้ว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีการปิดการเข้าออกทั้งรัฐ อย่างไรก็ตาม ต่อมาโฆษกได้ออกปฏิเสธ โดยระบุว่า “เขาไม่ได้พูดแบบนั้น”
อินสลี ระบุว่า หนึ่งในความกังวลใหญ่หลวงของเขา ก็คือ ความพร้อมของโรงพยาบาลต่างๆ ที่ต้องรับมือกับคนไข้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
ความวิตกต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้สินค้าของใช้ภายในบ้าน ตั้งแต่ หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ น้ำยาฆ่าเชื้อ น้ำดื่ม กระดาษชำระ และยา ตามห้างค้าปลีกรายใหญ่ และร้านค้าย่อยทั่วประเทศ ขาดแคลน
ผู้บริโภคหลายรายได้โพสต์ภาพชั้นวางของที่ว่างเปล่าของหลายสาขาห้างค้าปลีก ทั้งคอสโค ทาร์เก็ต วอลมาร์ท โฮมดีโป้ ขึ้นโซเชียลมีเดีย เพื่อรายงานภาวะขาดแคลนสินค้าในแคลิฟอร์เนีย วอชิงตัน มินนิโซตา ฮาวาย และนิวยอร์ก
อินสลี ประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ หลังจากมีการรายงานผู้เสียชีวิตรายแรก พร้อมออกคำสั่งให้หน่วยงานรัฐทุกแห่งระดมกำลังและใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เต็มความสามารถและเท่าที่จะทำได้เพื่อช่วยเหลือชุมชนที่พบว่าการมีติดเชื้อให้ผ่านพ้นวิกฤติไวรัสโควิด-19
ก่อนหน้านั้นในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ผู้อำนวยการศูนย์โรคติดเชื้อและระบบหายใจแห่งชาติ ในสังกัดศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯได้เตือนว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะเกิดขึ้นแน่และเลี่ยงไม่พ้น และไม่ใช่การถามว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ แต่ต้องถามว่าจะเกิดเมื่อไร และจะมีคนในประเทศติดเชื้อรุนแรงมากแค่ไหน
จากการนับของมหาวิทยาจอห์นส ฮอปกินส์ พบว่า จนถึงตอนนี้ทั่วสหรัฐฯพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้วมากกว่า 800 คน และเสียชีวิต 28 ราย ซึ่งในนั้น 23 ศพ อยู่ในรัฐวอชิงตัน
