เอเอฟพี - ฝรั่งเศสออกคำสั่งห้ามการชุมนุมเกิน 1,000 คน เพื่อพยายามชะลอการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขกล่าว ในขณะที่จำนวนสมาชิกสภานิติบัญญัติที่ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 4 คน
เมื่อวันอาทิตย์ (8) โอลิเวอร์ วีแรน ยืนยันว่ามีมาตรการดังกล่าวจริง แต่กล่าวว่าเจ้าหน้าที่จะออกรายการกิจกรรมที่ถูกมองว่า “เป็นประโยชน์ต่อคนทั้งชาติ” ซึ่งจะได้รับอนุญาตให้มีต่อไปได้ เช่น การประท้วง
ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อกว่า 1,100 คน และผู้เสียชีวิต 19 คนจนถึงตอนนี้ ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบมากเป็นอันดับสองในยุโรปรองจากอิตาลี ซึ่งบังคับใช้คำสั่งปิดเขตพื้นที่ทางเหนือเกือบทั้งหมด
เยอรมนีก็เรียกร้องให้ยกเลิกกิจกรรมที่มีผู้เข้าร่วมเกิน 1,000 คนเช่นกัน ในขณะที่หลายประเทศทั่วโลกพยายามยับยั้งเชื้อไวรัสนี้ที่ปรากฏครั้งแรกในจีนเมื่อเดือนธันวาคม
สมาชิกรัฐสภาฝรั่งเศสอีก 2 คนถูกตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ หน่วยงานสาธารณสุขเมืองปารีส กล่าว แต่ไม่ได้เปิดเผยชื่อของพวกเขา
นั่นทำให้จำนวนสมาชิกสภานิติบัญญัติผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 4 คน ในขณะที่ลูกจ้างอีก 2 คนที่รัฐสภาฝรั่งเศสก็ถูกตรวจพบเชื้อดังกล่าวด้วยเช่นกัน
รัฐบาลฝรั่งเศสเคยออกคำสั่งห้ามการชุมนุมในพื้นที่จำกัดเกิน 5,000 คนมาแล้ว มาตรการที่จะมีต่อไปจนถึงวันที่ 15 เมษายน วีแรนไม่ได้ระบุเงื่อนไขของคำสั่งห้ามล่าสุดที่เข้มงวดกว่าเดิมนี้
“เย็นนี้เรายังคงอยู่ในระยะที่ 2 หมายความว่า สิ่งสำคัญที่สุดของเราคือการทำทุกหอย่างเพื่อชะลอการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในแผ่นดินของเรา” เขากล่าว
ฝรั่งเศสกำลังเตรียมการเปลี่ยนผ่านสู่การเตือนภัยระดับ 3 ซึ่งจะรวมถึงการปิดโรงเรียนและระงับบริการขนส่งสาธารณะ ในความพยายามเพื่อบรรเทาผลกระทบของการแพร่ระบาด มาตรการที่ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง กล่าวว่า “ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้”
คำสั่งห้ามชุมนุมใหญ่ล่าสุดจะส่งผลกระทบอย่างมากต่องานกีฬาและงานบันเทิงต่างๆ ขณะที่งานมหกรรมหนังสือและร้านสักลายแห่งหนึ่งถูกปิดไปแล้วก่อนหน้านี้
การแข่งขันฟุตบอลลีกเอิงของสโมสรปารีแซ็ง-แฌร์แม็งที่สตราบูร์กก็ถูกเลื่อนออกไป รวมถึงการแข่งขันรักบีหญิง ซิกส์ เนชัน ระหว่างสกอตแลนด์และฝรั่งเศส
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มาครงกล่าวว่า ทางการฝรั่งเศสจะควบคุมสต๊อกและการผลิตหน้ากากอนามัยทั้งหมดในฝรั่งเศส และแจกจ่ายมันให้แก่ผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุขและผู้ติดเชื้อ