เอเอฟพี - ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) สร้างความประหลาดใจ ด้วยการประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยแบบฉุกเฉินในวันอังคาร(3มี.ค.) ตอบสนองต่อความเสี่ยงทางเศรษฐกิจจากภัยคุกคามของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) และมอบความเคลื่อนไหวกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรียกร้องมาตลอด
ในการตัดสินใจที่เป็นเอกฉันท์ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.5% สู่ระดับ 1.0 ถึง1.25%
การตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยแบบไม่ปกติ ซึ่งเกิดขึ้นก่อนถึงกำหนดประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินสมัยสามัญเพียง 15 วัน สะท้อนให้เห็นว่ามีความกังวลมากขึ้นว่าการแพร่ระบาดของไวรัสจะกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯและเศรษฐกิจโลกอย่างหนักหน่วง เนื่องจากห่วงโซอุปทานต่างๆที่เชื่อมโยงกับจีน ศูนย์กลางของการแพร่ระบาด อยู่ในภาวะปิดตาย
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ยังไม่ขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากบรรดารัฐมนตรีคลังของกลุ่มจี7 ให้สัญญาว่าจะดำเนินการใช้เครื่องมือด้านนโยบายทุกอย่างที่มีอย่างเหมาะสมในการรับมือกับผลกระทบจากวิกฤตไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
"คณะรัฐมนตรีคลังจี7 พร้อมดำเนินการต่างๆ ในนั้นรวมถึงมาตรการทางการคลังอย่างเหมาะสม เพื่อช่วยรับมือกับไวรัสและสนับสนุนเศรษฐกิจระหว่างช่วงเวลานี้" ทางกลุ่มระบุหลังเสร็จสิ้นประชุมทางไกล
อย่างไรก็ตามความเคลื่อนไหวปรับลดดอกเบี้ยครั้งนี้ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของทรัมป์ โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯเขียนบนทวิตเตอร์ เรียกร้องเฟด "ต้องผ่อนคลายกว่านี้อีก และที่สำคัญที่สุด ต้องอยู่ในกรอบเดียวกับประเทศอื่นๆหรือคู่แข่งชาติอื่นๆ"
ถ้อยแถลงของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดระบุว่า ในขณะที่พื้นฐานทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯยังคงแข็งแกร่ง "แต่โคโรนาไวรัสดูท่าจะก่อความเสี่ยงมากขึ้นเรื่อยๆต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ธนาคารกลางกำลังจับตาสถานการณ์และผลกระทบต่อแนวโน้มทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด และจะใช้เครื่องมือของธนาคารดำเนินการอย่างหมาะสมเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ"
เฟดไม่ได้ปรับลดดอกเบี้ยระหว่างการประชุมสมัยสามัญมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2008 หรือครั้งที่เกิดวิกฤตการเงินโลก
ชาติเศรษฐกิจพัฒนาแล้วของโลกเกือบทั้งหมด ทั้งอังกฤษ, แคนาดา, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ล้วนแต่มีอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำหรือแม้กระทั่งติดลบ ดังนั้นบางทีความเคลื่อนไหวของเฟดจึงอาจเป็นเรื่องที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ถึงแม้เฟดสร้างความประหลาดใจต่อตลาดการเงินด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในวันอังคาร(3มี.ค.) แต่เฟดยังมีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งหนึ่งในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 17-18 มี.ค.