รอยเตอร์ - วอลล์สตรีทพุ่งแรงในวันจันทร์ (2 มี.ค.) จากแรงซ้อนซื้อของนักลงทุน หลังธนาคารกลางบางชาติสร้างความอุ่นใจว่าพร้อมตอบโต้ผลกระทบทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ปัจจัยนี้ดันทองคำและราคาน้ำมันพุ่งทะยานเช่นกัน
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 1293.96 จุด (5.09 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 26,703.32 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 136.01 จุด (4.60 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,090.23 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 384.80 จุด (4.49 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 8,952.17 จุด
ทั้ง 3 ดัชนีดีดตัวอย่างแรง หลังเมื่อสัปดาห์ที่แล้วตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทำสถิติเป็นสัปดาห์ที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตการเงินปี 2008 สืบเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะถดถอย ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
อย่างไรก็ตาม ในวันจันทร์ (2 มี.ค.) ฮารุฮิโกะ คูโรดะ ผู้ว่าการธนคารกลางญี่ปุ่นเผยว่า ทางธนาคารกลางญี่ปุ่นจะใช้มาตรการต่างๆ ที่จำเป็นเพื่อรักษาเสถียรภาพแก่ตลาดเงิน ความความเคลื่อนไหวแบบเดียวกับธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หลังจากที่ เจอโรม เพาเวลล์ ประธานเฟด ออกมายืนยันเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (28 ก.พ.)
คำสัญญาของธนาคารกลางทั้งสองที่ประกาศจะดำเนินการอย่างเหมาะสมเพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ช่วยดันราคาทองคำในวันจันทร์ (2 มี.ค.) พุ่งแรง โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 28.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,594.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนราคาน้ำมันในวันจันทร์ (2 มี.ค.) ดีดตัวกว่า 2% ท่ามกลางความหวังโอเปกและรัสเซียจะปรับลดกำลังผลิตเพิ่มเติม เช่นเดียวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางประเทศต่างๆ ช่วยปัดเป่าความกังวลเกี่ยวกับความเสียหายทางอุปสงค์อันสืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส สายพันธุ์ใหม่
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 1.99 ดอลลาร์ ปิดที่ 46.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 2.23 ดอลลาร์ ปิดที่ 51.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ฟิล ฟลินน์ นักวิเคราะห์จากไพรซ์ ฟิวเจอร์ส กรุ๊ป ในชิคาโก ระบุว่า “มีความสมเหตุสมผลมากขึ้นที่จะเห็นพฤติกรรมแห่งความร่วมมือกันโดยเหล่าธนาคารกลางทั่วโลก ในความพยายามปัดเป่าภาวะชะลอตัวอันเนื่องจากโคโรนาไวรัส มีความสมเหตุสมผลมากขึ้นที่อาจได้เห็นโอเปกและรัสเซียร่วมมือกันดำเนินการอะไรบางอย่าง”