เอเจนซีส์ - ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในจีนกลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง ขณะที่ “ทรัมป์” ยืนยันไม่มีเหตุผลต้องแตกตื่นแม้พบผู้เสียชีวิตคนแรกจากโควิด-19 ในอเมริกา เช่นเดียวกับออสเตรเลียที่พบผู้เสียชีวิตรายแรกเช่นกัน ขณะเดียวกัน รัฐบาลของหลายประเทศในยุโรป ตะวันออกกลาง อเมริกา และเอเชีย สั่งแบนกิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนหมู่มากและยกระดับการจำกัดการเดินทางเข้มงวดขึ้น
ไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ระบาดไปยังกว่า 10 ประเทศทั่วโลก ทำให้องค์การอนามัยโลก (WHO) ต้องปรับการประเมินความเสี่ยงสู่ระดับสูงสุด ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสนี้เกือบ 3,000 คน และผู้ติดเชื้อประมาณ 87,000 คนทั่วโลก นับจากที่ตรวจพบครั้งแรกเมื่อปลายปีที่แล้วในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยของจีน
ในวันอาทิตย์ (1 มี.ค.) จีนรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่ 573 คน สูงสุดในรอบสัปดาห์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตัวเลขเริ่มลดลงแล้ว อย่างไรก็ตาม ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในหูเป่ย มีเพียง 3 คนที่พบในมณฑลอื่นๆ แม้จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในจีนยังถือว่า ต่ำกว่าในช่วงสองสัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ แต่ไวรัสนี้กำลังระบาดข้ามพรมแดนอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในเกาหลีใต้ อิตาลี และอิหร่าน
เกาหลีใต้รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ 586 คนในวันอาทิตย์ รวมเป็น 3,736 คน ถือเป็นสถิติสูงสุดนอกจีน และคาดว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องขณะที่ทางการกำลังคัดกรองสมาชิกกว่า 210,000 คนของ “ศาสนจักรชินชอนจิแห่งพระเยซูคริสต์” (Shincheonji Church of Jesus) ที่เชื่อว่าเชื่อมโยงกับผู้ติดเชื้อครึ่งหนึ่งของทั้งหมด
ออสเตรเลียพบผู้เสียชีวิตคนแรก เป็นชายวัย 78 ปีที่อพยพมาจากเรือไดมอนด์ปรินเซสที่จอดกักกันโรคนอกชายฝั่งญี่ปุ่นตั้งแต่ต้นเดือนที่แล้ว นอกจากนี้ความสนใจของทั่วโลกยังพุ่งตรงไปที่อเมริกา หลังพบผู้เสียชีวิตคนแรกเมื่อวันเสาร์ (29 ก.พ.) อย่างไรก็ตาม ในการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวจัดขึ้นอย่างเร่งด่วน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันว่า สหรัฐฯ ใช้มาตรการเชิงรุกระดับสูงสุดในการรับมือไวรัสโคโรนา ดังนั้นประชาชนจึงไม่ควรแตกตื่น ทำเนียบขาวยังเตือนพลเมืองอเมริกันงดเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการระบาดในเกาหลีใต้และอิตาลี รวมถึงประกาศยกระดับการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากสองประเทศดังกล่าว
ผู้เสียชีวิตตามรายงานข่าวอยู่ในเทศมณฑลคิง รัฐวอชิงตัน เป็นชายวัย 50-59 ปีที่มีปัญหาสุขภาพอยู่ก่อนแล้ว นอกจากนั้น ศูนย์เพื่อการควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ยังประกาศว่า อาจมีการระบาดในสถานดูแลผู้สูงวัยแห่งหนึ่งของรัฐนี้ ซึ่งผู้ดูแลคนหนึ่งและผู้สูงวัยหญิงอายุ 70-79 ปี ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อ นอกจากนั้นยังมีผู้สูงวัยและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ มีปัญหาการหายใจหรือถูกนำส่งโรงพยาบาลด้วยอาการปอดอักเสบโดยไม่ทราบสาเหตุ
ผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับการยืนยันติดเชื้อทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยที่ไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศหรือเคยติดต่อกับผู้ที่รับรู้ว่า ป่วยจากไวรัสโคโรนา บ่งชี้ว่าไวรัสนี้ระบาดในอเมริกาแล้ว โดยทาง อเล็กซ์ เอซาร์ รัฐมนตรีสาธารณสุขสหรัฐฯ ยอมรับว่า อาจพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเร็วๆ นี้
ส่วนที่ฝรั่งเศส มีการยกเลิกกิจกรรมที่มีกลุ่มคน 5,000 คนขึ้นไป ซึ่งรวมถึงปารีส ฮาล์ฟ-มาราธอนและการประชุมด้านการเกษตรที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันอาทิตย์ หลังพบผู้ติดเชื้อใหม่ 16 คน รวมเป็น 73 คนเมื่อวันเสาร์
อิตาลีที่มีการระบาดหนักที่สุดในยุโรป พบผู้ติดเชื้อรวมทั้งสิ้นเกิน 1,100 ราย และยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 8 คนเมื่อวันเสาร์ เป็น 29 คน การระบาดทำให้ต้องมีการประกาศเลื่อนการแข่งขันฟุตบอลซีรี่ เอ ซึ่งรวมถึงคู่บิ๊กแมตช์ระหว่างยูเวนตุสกับอินเตอร์มิลาน รัฐบาลยังประกาศปิดโรงเรียนและมหาวิทยาลัยต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สองใน 3 แคว้นที่มีการระบาด
ทางด้านอิหร่านสั่งปิดโรงเรียนจนถึงวันอังคาร (3 มี.ค.) และขยายการปิดมหาวิทยาลัย รวมทั้งห้ามจัดคอนเสิร์ตและการแข่งขันกีฬา 1 สัปดาห์ และห้ามเจ้าหน้าที่เดินทางไปยังโรงพยาบาลหรือสถานดูแลผู้สูงวัย ขณะที่ยอด ผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็นเกือบ 600 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 40 คน ซึ่งรวมถึงสมาชิกรัฐสภาคนหนึ่งที่เพิ่งได้รับเลือกตั้งเมื่อวันที่ 21 เดือนที่ผ่านมา
ที่ญี่ปุ่น งานโตเกียวมาราธอนในวันอาทิตย์มีผู้เข้าร่วมเพียง 200 คน หลังจากประกาศลดขนาดกิจกรรมจากเดิมที่มีนักวิ่งลงชื่อเข้าร่วม 38,000 คน เหลือเฉพาะนักวิ่งชั้นนำเท่านั้น ขณะที่การแข่งขันซูโม่ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์หน้า (8 มี.ค.) จะจัดในสถานที่ปิด
รัฐบาลทั่วโลกต่างรีบเร่งป้องกันการระบาดด้วยมาตรการต่างๆ ตั้งแต่การปิดเมืองในจีน จนถึงการแบนเที่ยวบินและการเดินทางจากประเทศที่มีการระบาดรุนแรง กระนั้น ช่วงไม่กี่วันมานี้ ไวรัสระบาดไปถึงซับ-ซาฮาราแอฟริกา ขณะที่กาตาร์ เอควาดอร์ ลักเซมเบิร์ก และไอร์แลนด์ ต่างยืนยันพบผู้ติดเชื้อรายแรกเมื่อวันเสาร์ ด้านบราซิลยืนยันพบผู้ติดเชื้อรายที่สอง ซึ่งมีประวัติเดินทางไปอิตาลีก่อนหน้านี้