เอเอฟพี - องค์การอนามัยโลก(WHO)ในวันศุกร์(28ก.พ.) อัพเกรดความเสี่ยงของโลกต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่สู่ระดับ "สูงมาก" โดยระบุว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อและประเทศได้รับผลกระทบที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คือสิ่งที่น่ากังวลอย่างแท้จริง
"ตอนนี้เรายกระดับคำประเมินของเราเกี่ยวกับความเสี่ยงของการแพร่กระจายและความเสี่ยงจากผลกระทบของโควิด-19 ในระดับสูง สู่ขั้นสูงมาก" เทดรอส อาดานอม เกเบรเยซัส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกบอกกับผู้สื่อข่าว
"อย่างไรก็ตามเรายังไม่เห็นหลักฐานชัดๆว่าไวรัสกำลังแพร่กระจายอย่างเสรีในชุมชนต่างๆ ตราบใดที่ยังเป็นแบบนี้ เรายังคงมีโอกาสที่จะยับยั้งไวรัส" เขากล่าว
"กุญแจสำคัญสำหรับยับยั้งไวรัสนี้ก็คือทำลายห่วงโซ่การแพร่เชื้อ" เขากล่าว พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญที่แต่ละคนต้องใช้มาตรการป้องกันไว้ก่อนเพื่อหยุดการแพร่กระจาย "ศัตรูสำคัญที่สุดของเราไม่ใช่ตัวไวรัสเอง แต่เป็นความหวาดกลัว, ข่าวลือและการตราหน้า สินทรัพย์ที่สำคัญที่สุดของเราก็คือข้อเท็จจริง,ความมีเหตุผลและเป็นอันหนึ่งเดียวกัน"
เทดรอส บอกว่าตอนนี้มีวัคซีนมากกว่า 20 ตัวที่อยู่ระหว่างการพัฒนาทั่วโลก และหลายตัวยาอยู่ในขั้นการวิจัยเชิงทดลองทางคลินิก ซึ่งคาดหมายว่าผลทดสอบแรกจะออกมาในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้
เมื่อถูกถามว่าตอนนี้ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะพิจารณาว่าโควิด-19 เป็นเป็นการระบาดใหญ่ในระดับโลกหรือหลายทวีป(pandemic) ทางดอคเตอร์ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการโครงการสาธารณสุขฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก ตอบว่า "มันไม่มีปรโยชน์อันใดเลย"
เขาบอกต่อว่า "ถ้าอนามัยโลกเรียกมันว่า pandemic ถึงตอนนั้นเราจำใจยอมรับว่ามนุษย์ทุกคนบนโลกจะติดเชื้อไวรัสนี้ แต่ข้อมูลไม่เป็นแบบนั้น" ไรอันกล่าว "แต่ถ้าเราไม่ดำเนินการ เราอาจประสบกับมันในอนาคต อนาคตต่างๆนานาของโรคระบาดนี้อยู่ในมือของพวกเรา"
นอกจากนี้องค์การอนามัยโลกยังวิงวอนอย่า "กล่าวโทษ" ประเทศใดประเทศหนึ่งว่าเป็นต้นเหตุการระบาด
ไรอัน กล่าวว่าไม่ควรกล่าวโทษจีนว่าเป็นต้นเหตุของโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เช่นเดียวกับที่ไม่กล่าวโทษสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกว่าเป็นต้นเหตุการระบาดของเชื้ออีโบลา
เขาชี้ว่า ตราบาป "ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวาทกรรมโลก ซึ่งไม่มีประโยชน์อันใดเลย"