รอยเตอร์ - จีนในวันพฤหัสบดี(20ก.พ.) เปิดเผยว่ากำลังดำเนินการช่วยเพื่อนบ้านรับมือกับภัยแล้งที่ยืดเยื้อ ด้วยการปล่อยน้ำจากเขื่อนต่างๆในแม่น้ำโขงเพิ่มเติม พร้อมระบุจะพิจารณาแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับอุทกวิทยาเพื่อมอบความช่วยเหลือเพิ่มเติมในอนาคต
ถ้อยแถลงมีออกมาหลังจากรายงานทางเศรษฐกิจฉบับหนึ่งคาดการณ์ว่าการสร้างเขื่อนต่างๆเพื่อใช้ประโยชน์จากพลังงานน้ำในแม่น้ำโขง จะเปลี่ยนโฉมเศรษฐกิจของ 5 ชาติที่อยู่ตามแม่น้ำโขง โหมกระพือเงินเฟ้อและการพึ่งพิงจีนในระยะยาว
ภัยแล้งเมื่อช่วงปีที่ผ่านมาส่งผลกระทบอย่างรุนแรงจากการทำไร่นาและการประมงในลาว, ไทย, กัมพูชา, พม่าและเวียดนาม ซึ่งคนจำนวนมากกล่าวโทษว่าเป็นเพราะเขื่อน 11 แห่งของจีน บริเวณต้นน้ำแม่น้ำโขง ซึ่งจีนเรียกว่าแม่น้ำหลานชาง(ล้านช้าง) เช่นเดียวกับภาวะโลกร้อน
หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนบอกว่าภาวะฝนตกน้อยคือสาเหตุหลักของภัยแล้ง และบอกว่าจีนก็ประสบความทุกข์ยากจากภาวะดังกล่าวเช่นกัน
"จีนฟันฝ่าความยากลำบากของตนเองและได้เพิ่มการปล่อยน้ำจากแม่น้ำหลานชางเพื่อช่วยบรรเทาประเทศต่างๆแถบลุ่มน้ำโขงจากภัยแล้ง" หวังบอกระหว่างประชุมกรอบความร่วมมือแม่โขง - ล้านช้าง(LMC) "เรายังเห็นพ้องเพิ่มความร่วมมือภายในกรอบการทำงาน LMC เพื่อรับประกันการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างสมเหตุสมผลและยั่งยืน"
เขื่อนสร้างใหม่แห่งหนึ่งในลาว เสี่ยงก่อข้อพิพาททางน้ำและอาหารเป็นทวีคุณในบริเวณลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งมีประชาชนอย่างน้อย 60 ล้านคนและจำเป็นต้องพึ่งพิงแม่น้ำแห่งนี้ในวิถีการดำรงชีวิต
ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ลาวเปิดเขื่อน 2 แห่งบริเวณแม่น้ำโขงตอนล่าง และมีทีท่าจะสร้างเขื่อนแห่งที่ 3 อีกในช่วงปลายปีนี้ ใกล้กับเมืองหลวงพระบาง
เมื่อวันพฤหัสบดี(20ก.พ.) นักวิเคราะห์รายหนึ่งจากสถาบันวิจัย Fitch Solutions Macro มองว่าการสร้างเชื่อนได้เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คนตามลุ่มน้ำโขงเป็นที่เรียบร้อยแล้วและจะก่อผลกระทบเรื้อรังในช่วงทศวรษหน้า
รายงานข่าวอ้างผลการศึกษาของคณะกรรมการแม่น้ำโขงที่คาดการณ์ว่าด้วยที่การทำประมงและการทำไร่นาได้รับผลกระทบอย่างหนัก อาจบีบให้ประเทศตามแถบลุ่มน้ำโขงต้องนำเข้าอาหารเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังคาดหมายด้วยว่าอาจมีการเปลี่ยนจากภาคเกษตรกรรมมุ่งสู่ภาคการผลิตและธุรกิจการบริการในภาคการท่องเที่ยวแทน