เอเอฟพี - บริษัท โบอิ้ง ผู้ผลิตอากาศยานรายใหญ่ของสหรัฐฯ แถลงยืนยันวานนี้ (18 ก.พ.) ว่าจะเพิ่มมาตรการตรวจสอบให้รัดกุมยิ่งขึ้น หลังพบ “ชิ้นส่วนแปลกปลอม” ที่อาจเป็นอันตรายอยู่ในถังน้ำมันของเครื่องบินรุ่น 737 แม็กซ์ ที่อยู่ระหว่างรอส่งมอบแก่ลูกค้าเนื่องจากมีคำสั่งระงับบิน
สายการบินทั่วโลกตัดสินใจงดนำ โบอิ้ง 737 แม็กซ์ ขึ้นบิน หลังเกิดอุบัติเหตุเครื่องบินโดยสารไลอ้อนแอร์และเอธิโอเปียนแอร์ไลน์สตกเมื่อช่วงปีเศษๆ ที่ผ่านมา ส่งผลให้ทางโบอิ้งจำเป็นต้องชะลอการส่งมอบเครื่องบินที่ผลิตเสร็จแล้ว รวมถึงระงับสายการผลิตเครื่องบินรุ่นนี้ชั่วคราว
“ระหว่างการตรวจเช็คสภาพ เราพบชิ้นส่วนแปลกปลอม (Foreign Object Debris - FOD) ในเครื่องบิน 737 แม็กซ์ ที่ยังไม่ได้ส่งมอบและถูกเก็บอยู่ภายในโกดัง” โฆษกโบอิ้งให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
“จากการค้นพบดังกล่าวทำให้เราเปิดสอบสวนภายในอย่างเข้มข้น และได้มีมาตรการแก้ไขในส่วนของสายการผลิตทันที”
มาร์ค เจงส์ (Mark Jenks) รองประธานโบอิ้ง ระบุในบันทึกข้อความที่ส่งแจ้งพนักงานว่าพบชิ้นส่วนแปลกปลอมที่ว่านี้อยู่ในเครื่องบิน “หลายลำ” ที่รอส่งมอบ
ทั้งนี้ โบอิ้งไม่ได้เปิดเผยว่าชิ้นส่วนที่พบคืออะไร ขณะที่บลูมเบิร์กนิวส์ตั้งข้อสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นได้ตั้งแต่เครื่องมือชิ้นเล็กๆ เรื่อยไปจนถึง “เศษผ้าขี้ริ้ว” ที่คนงานอาจลืมทิ้งไว้
ทั้งนี้ มีเครื่องบินอยู่ประมาณ 400 ลำที่ โบอิ้ง จะต้องทำการตรวจสอบ
หลังจากผิดหวังมาหลายรอบในปีที่แล้ว ล่าสุด โบอิ้ง คาดหมายว่าอากาศยานรุ่นนี้น่าจะได้รับอนุญาตให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้งในราวกลางปี 2020