รอยเตอร์/มาร์เก็ตวอตช์ - วอลล์สตรีทปิดลบในวันพฤหัสบดี(13ก.พ.) ทบทวนรายงานผลประกอบการบริษัทต่างๆและข่าวคราวที่ผสมผสานเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) ปัจจัยหลังนี้ดันทองคำพุ่งแรง ขณะที่น้ำมันขยับขึ้นในกรอบแคบๆ
ดาวโจนส์ ลดลง 128.11 จุด (0.43 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 29,423.31 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 5.51 จุด (0.16 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,373.94 จุด แนสแดค ลดลง 13.99 จุด (0.14 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 9,711.97 จุด
ความหวังเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ถูกกัดเซาะจากยอดผู้เสียชีวิตที่พุ่งขึ้น โดยในจีนพบเหยื่อเพิ่มเติมอีก 242 รายในวันพฤหัสบดี(13พ.ย.) ส่งผลให้ยอดรวมเป็น 1,367 คน
ข่าวดังกล่าวก่อแรงเทขายทั่วทั้งกระดานในตลาดทุนโลก ในนั้นรวมถึงวอลล์สตรีท ท่ามกลางวิกฤตที่นำมาซึ่งความปั่นป่วนทางอุปทานและหลายบริษัทต้องปิดโรงงาน
อย่างไรก็ตามยังพอมีแนวโน้มทางบวกอยู่บ้าง เมื่อองค์การอนามัยโลก(WHO) ระบุระหว่างแถลงสรุปว่า "การเพิ่มขึ้นอย่างมากในรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19ในจีน เป็นผลสืบเนื่องจากการปรับวิธีการนับใหม่ ไม่ได้เป็นตัวแทนของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของการแพร่ระบาด"
นอกจากนี้แล้วตลาดหุ้นสหรัฐฯยังได้แรงหนุนจากมุมมองแง่ดีต่อฤดูกาลเผยแพร่รายงานผลประกอบการไตรมาส 4 ที่เข้าสู่ระยะสุดท้ายแล้ว ด้วยจนถึงตอนนี้มีบริษัทต่างๆ 378 แห่งในเอสแอนด์พี 500 ที่รายงานผลดำเนินงานออกมาแล้ว ซึ่งในนั้นมีถึง 71.2% ที่ประมาณการสอดคล้องกันว่าจะมีผลประกอบการออกมาเป็นบวก
กระนั้นก็ตามราคาทองคำในวันพหัสบดี(13ก.พ.) ดีดตัวขึ้น หลังความกังวลรอบใหม่เกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 กระตุ้นให้นักลงทุนบางส่วนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ท่ามกลางความวิตกว่ามันจะก่อความยุ่งยากซับซ้อนแก่เศรษฐกิจ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 7.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,578.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ด้านราคาทองคำในวันพฤหัสบดี(13ก.พ.) ปิดบวก 3 วันติด ได้ปัจจัยหนุนจากความเป็นไปได้ที่ OPEC+ จะลดกำลังผลิตเพิ่มเติม หลังประมาณการอุปสงค์พลังงานอ่อนแอ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 25 เซนต์ ปิดที่ 51.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ ปิดที่ 56.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
แม้ข่าวคราวตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่พุ่งขึ้นอย่างมากในจีน "แต่น้ำมันยังแกว่งตัวขึ้น เพราะนักลงทุนไม่รู้สึกประหลาดใจเลยกับการรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อที่ต่ำกว่าความเป็นจริงในจีน" ความเห็นของฟิน ฟลีนน์ นักวิเคราะห์ด้านการตลาดอาวุโสจากไพรซ์ ฟิวเจอร์ กรุ๊ป
