รอยเตอร์ – จีนกำลังคุกคามอำนาจอธิปไตยของหมู่เกาะแปซิฟิกเล็กๆ และบ่อนทำลายเสถียรภาพของภูมิภาคนี้ ผู้บัญชาการทหารระดับสูงของสหรัฐฯ ระบุในวันพฤหัสบดี (13) ในความคิดเห็นที่น่าจะกระพือความตึงเครียดกับจีน
ความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีนพัฒนาขึ้นในเดือนมกราคมหลังการลงนามข้อตกลงการค้าที่คลี่คลายปมขัดแย้งยาวนาน 18 เดือน ซึ่งฉุดการเติบโตทั่วโลก แต่ยังคงมีความตึงเครียดหลงเหลืออยู่
พล.ร.อ ฟิลิป เดวิดสัน ผู้บัญชาการกองบัญชาการอินเดีย-แปซิฟิกของสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯ ทุ่มกำลังทั้งหมดเพื่อต้านทานจีนในแปซิฟิก เนื่องจาก “การอ้างสิทธิทางดินแดนเกินขอบเขต การทูตแบบใช้กับดักหนี้สิน การละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ การขโมยทรัพย์สินระหว่างประเทศ การข่มขู่ทางทหาร และการคอร์รัปชั่น”
“พรรคคอมมิวนิสต์จีนพยายามควบคุมกระแสการค้า การเงิน การติดต่อสื่อสาร การเมือง และวิถีชีวิตในอินเดีย-แปซิฟิก” เดวิดสัน กล่าวในการปราศรัยที่ซิดนีย์
สถานทูตจีนในออสเตรเลียยังไม่ได้ตอบสนองต่อคำขอความคิดเห็นของเขา ในอดีตจีนปฏิเสธหลายครั้งต่อข้อกล่าวหาที่ว่า พวกเขามีพฤติกรรมก้าวร้าวและชอบหลอกลวงประเทศเล็กๆ เข้าสู่กับดักหนี้สิน
จีนมีการเคลื่อนไหวมากขึ้นในภูมิภาคแปซิฟิกอันอุดมทรัพยากรในช่วงไม่กี่ปีมานี้ และพยายามขยายอิทธิพลด้วยความช่วยเหลือและกระตุ้นให้หลายประเทศละทิ้งความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวัน ซึ่งจีนมองว่าเป็นมณฑลกบฏที่ไม่มีสิทธิสร้างความสัมพันธ์รัฐต่อรัฐ
ความอหังการมากขึ้นของจีนในทะเลจีนใต้ได้ทำให้สหรัฐฯ และประเทศอื่นในภูมิภาคมีความกังวลมากขึ้นเป็นพิเศษ
จีนอ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่เกือบทั้งหมดของทะเลจีนใต้ ซึ่งมีการขนส่งทางเรือคิดรวมมูลค่า 3.4 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี หลายประเทศ รวมถึงมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และบรูไน ต่างการอ้างกรรมสิทธิ์ทับซ้อนกันในทะเลนี้
ความคิดเห็นของเดวิดสันออกมาในช่วงปิดฉากการเยือนพันธมิตรเก่าแก่อย่างออสเตรเลีย หลังการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี สก๊อตต์ มอร์ริสสัน
ออสเตรเลีย ซึ่งเคยมีอิทธิพลอย่างไร้คู่แข่งมานานในแปซิฟิก เมื่อไม่กี่ปีมานี้ได้ใช้ความพยายามมากขึ้นในการรักษาตำแหน่งของตัวเองในภูมิภาค
เมื่อปี 2018 พวกเขาได้จัดตั้งกองทุนมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลียเพื่อเสนอความช่วยเหลือและเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อโครงสร้างพื้นฐานให้กับบรรดาประเทศแปซิฟิกต่างๆ