เอเอฟพี - รัสเซียในวันพฤหัสบดี(6ก.พ.) ปฏฺิเสธข้อเสนอลดกำลงผลิต ณ ที่ประชุมโอเปก+ ตามรายงานของสื่อมวลชน และขอเวลาเพิ่มเติมสำหรับประเมินผลกระทบการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่มีต่อราคาน้ำมันดิบ
คณะผู้แทนจากโอเปกและเหล่าประเทศและรัสเซีย ซึ่งรู้จักกันในชื่อ โอเปก+ ได้ประชุมคณะกรรมการเทคนิคร่วมในกรุงเวียนนา ออสเตรีย ในสัปดาห์นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการลดกำลังผลิต ท่ามกลางความกังวล่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสจะส่งผลกระทบต่อการบริโภคน้ำมันในตลาดจีน
การเจรจาเริ่มต้นในวันอังคาร(4ก.พ.) แต่พังครืนลงในวันพฤหัสบดี(6ก.พ.) หลังรัสเซียปฏิเสธความต้องการของซาอุดีอาระเบียที่เสนอให้ลดกำลังผลิตลงอีก 600,000 บาร์เรลต่อวัน ตามรายงานของวอลล์สตรีท เจอร์นัล
ส่วนสำนักข่าวทาสส์นิวส์อ้างแหล่งข่าวไม่ประสงค์เอ่ยนามระบุว่ารัสเซียขอให้สองฝ่ายกลับมาเจรจากันใหม่อีกรอบ แต่รูปแบบและกำหนดเวลาไม่เป็นที่ชัดเจน
สื่อแห่งนี้อ้างคำพูดของอเล็กซานเดอร์ โนวัค รัฐมนตรีพลังงานรัสเซีย ระบุก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน ว่ามอสโกยังไม่พร้อมกำหนดจุดยืนอย่างใดอย่างหนึ่งท่ามกลางการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส
"ผมไม่สามารถพูดได้ว่าเราพร้อมหรือไม่พร้อม หากปราศจากความเข้าใจสถานการณ์ที่ชัดเจนและมีการพยากรณ์ที่ชัดเจนต่อพัฒนาการสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา" เขากล่าว "เราต้องการเวลาเพิ่มเติมเพื่อดูความคืบหน้าของสถานการณ์ เพื่อดูว่าอิทธิพลของมันจะส่งผลกระทบต่อตลาดโลกและราคาน้ำมันโลกอย่างไร"
ในปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบทั้งหมดของจีน มีอยู่ถึง 2 ใน 3 ที่นำเข้าจากโอเปกและรัสเซีย
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ รัฐมนตรีพลังงานของอิรักบอกว่าที่ประชุมคณะมนตรีโอเปกอาจร่นให้เร็วขึ้นจากเดือนมีนาคมเป็นกุมภาพันธ์ เพื่อแถลงเกี่ยวกับมาตรการลดกำลังผลิต
รัสเซียส่งออกน้ำมัน 77.6 ตันไปยังจีนในปี 2019 มากกว่าหนึ่งปีก่อนหน้านั้น แต่ยังเป็นรองซาอุดีอาระเบีย
โอเปกและพันธมิตร ในนั้นรวมถึงรัสเซีย เห็นพ้องกันในเดือนธันวาคม ในการลดกำลังผลิตน้ำมันดิบเพิ่มเติมอีก 500,000 บาร์เรลต่อวันจากข้อตกลงในปัจจุบัน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้กำลังผลิตของ OPEC+ ลดลง 1.7 ล้านบาร์เรลจากระดับของเดือนตุลาคมปี 2018 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนมีนาคม ก่อนที่โอเปกและโอเปก+ จะมีกำหนดเปิดประชุมนัดพิเศษในวันที่ 5 และ 6 มีนาคม เพื่อตัดสินใจว่จะขยายมาตรการลดกำลังผลิตนี้ออกไปอีกหรือไม่ หรือจะพิจารณาระดับกำลังผลิตใหม่