รอยเตอร์ - รัสเซียระบุในวันจันทร์(3ก.พ.) ว่าอาจเนรเทศชาวต่างชาติที่มีผลตรวจโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ออกมาเป็นบวก ในขณะเดียวกันก็ได้ฤกษ์ส่งเครื่องบินทหารไปอพยพพลเมืองออกมาจากอู่ฮั่น ดินแดนซึ่งเป็นแกนกลางการแพร่ระบาดของไวรัสมรณะซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 361 ศพ
รัสเซียซึ่งมีพรมแดนทางภาคพื้นติดอยู่กับรัสเซียเป็นระยะทาง 4,300 กิโลเมตร รายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2 รายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยทั้งสองเป็นชาวจีน
สำนักข่าวอาร์ไอเอรายงานว่ารัสเซียระงับขบวนรถไฟโดยสารที่มุ่งหน้าสู่จีนในตอนค่ำวันอาทิตย์(2ก.พ.) และเที่ยวสุดท้ายที่มาจากกรุงปักกิ่ง แล่นเข้าสู่รัสเซียในสภาพที่ว่างเปล่า หลังผู้โดยสาร 136 คน ทั้งหมดเป็นคนจีน ถูกนำตัวรถจากขบวนรถไฟบริเวณแนวชายแดน
ก่อนหน้านี้รัสเซียได้จำกัดเที่ยวบินที่บินตรงไปยังประเทศจีน คู่หูการค้ารายใหญ่ที่สุดของพวกเขา ส่วนเที่ยวบินต่างๆที่เหลืออยู่ก็จำเป็นต้องส่งผู้โดยสารไปลงยังอาคารผู้โดยสารแห่งหนึ่งซึ่งถูกแยกเอาไว้เป็นการเฉพพาะ ณ ท่าอากาศยานเชเรเมเตียโว ในกรุงมอสโก
"ตอนนี้เรายังไม่หวาดกลัว แต่หากคณะแพทย์วิจัยฉัยพบผู้ติดเชื้อ(ไวรัสโคโรนา)ในมอสโก เมื่อนั้น แน่นอนว่าเราจะเกิดความตื่นตระหนก" เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงรายหนึ่งกล่าว ในขณะที่เขาสวมหน้ากากยืนประจำการอยู่บริเวณจุดตรวจ ณ อาคารผู้โดยสารที่จัดเตรียมไว้รองรับเที่ยวบินจากจีนโดยเฉพาะ
ในแผนการที่จะเริ่มตั้งแต่วันอังคาร(4ก.พ.) เป็นต้นไป สนามบินเชเรเมเตียโว จะเป็นจุดเดียวที่ผู้โดยสารต่างชาติซึ่งเดินทางมาจากจีนจะเข้าสู่รัสเซียได้
มิคฮาอิล มิซูสติน นายกรัฐมนตรีรัสเซียบอกกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล ว่ามอสโกให้คำจำกัดความโคโรนาไวรัสอย่างเป็นทางการว่า "โรคติดเชื้อที่อันตรายอย่างมาก" และอนุมัติเพิ่มอำนาจเจ้าหน้าที่ในการต่อสู้กับเชื้อโรคร้ายนี้
นอกจากนี้แล้ว มิซูสติน ยังเสนอเลื่อนเวทีประชุมสัมมนาทางเศรษฐกิจประจำปีของรัสเซียออกไป จากเดิมที่กำหนดจัดขึ้นที่เมืองโซชิ ดินแดนตากอากาศริมทะเลกำ ในวันที่ 12-14 กุมภาพันธ์
เครื่องบินทหารมีกำหนด พาตัวพลเมืองชาวรัสเซีย 130 คนเดินทางกลับมาจากมณฑลหูเป่ยของจีนในวันจันทร์(3ก.พ.) หลังจากก่อนหน้านี้มีพลเมือง 58 คนเดินทางกลับจากจีนผ่านชายแดนทางตะวันออกไกลของรัสเซียตั้งแต่เมื่อเสาร์แล้ว(1ก.พ.)
ในดินแดนปรีมอร์สกี ได้มีการเปิดศูนย์กักกันโรคสำหรับคนจีนที่เดินทางมายังรัสเซีย โดยพวกเขาจะถูกกักกันตัวเป็นเวลา 14 วัน โดยไม่สนว่าพวกเขาจะไม่ผลตรวจไวรัสออกมาเป็นบวกหรือไม่
อีกด้านหนึ่งใน บราซิล ประเทศในแถบละตินอเมริกา ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขแห่งชาติ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับต้อนรับการกลับสู่มาตุภูมิของพลเมืองบราซิลซึ่งไปติดอยู่ในแก่นกลางของการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาในจีน
โดยทางกระทรวงสาธารณสุขจะขออำนาจจากสภาในการกักกันพลเมืองที่มีความเป็นไปได้ว่าอาจติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีจาอีร์ โบลโซนาโร บอกเมื่อวันอาทิตย์(2ก.พ.) ว่ารัฐบาลจะอพยพพลเมืองบราซิลทุกคนออกจากอู่ฮั่น และทั้งหมดจะถูกกักกันโรคในระยะเวลาหนึ่ง แต่ในวันจันทร์(3ก.พ.) รัฐมนตรีสาธารณสุขบอกว่ามีพลเมือบราซิลที่ต้องการเดินทางออกมาราวๆ 40 คน
เจ้าหน้าที่บราซิลเผยว่ากำลังเฝ้าระวังผู้ที่มีอาการคล้ายโคโรนาไวรัสราวๆ 500 คน แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่ยืนยันว่ามีเคสติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แต่อย่างใด
ทั้งนี้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจะช่วยรับประกันว่ารัฐบาลจะสามารถเข้าถึงเงินทุนสำหรับจัดการวิกฤตด้านสาธารณสุขครั้งนี้