เอเจนซีส์ - ไวรัสโคโรนาแผลงฤทธิ์ทุบหุ้นจีนร่วงเกือบ 400,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ปักกิ่งกล่าวหาอเมริกาปลุกเร้าให้เกิดความหวาดกลัวแทนที่จะเสนอความช่วยเหลือ สำหรับยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มเป็น 361 คน แซงสถิติเดิมของซาร์ส และยังเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในวันเดียว
อู่ฮั่น ศูนย์กลางการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 และเมืองใกล้เคียงถูกปิด ส่วนจีนเองถูกนานาชาติโดดเดี่ยวมากขึ้นด้วยการจำกัดการบินไปยังและออกจากจีน รวมทั้งยังงดรับผู้ที่เดินทางจากแดนมังกร
วันจันทร์ (3) หวา ชุนอิง โฆษกหญิงของกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงกล่าวโทษอเมริกาว่า ปลุกเร้าให้เกิดความหวาดกลัวแทนที่จะเสนอความช่วยเหลือ โดยสำทับว่า อเมริกาเป็นชาติแรกที่อพยพเจ้าหน้าที่สถานทูตบางส่วนออกจากอู่ฮั่น รวมถึงห้ามผู้เดินทางจากจีนเข้าประเทศ
หวายังแสดงความหวังว่า ประเทศอื่นๆ จะใช้วิจารณญาณและรับมือกับวิกฤตไวรัสโคโรนาอย่างมีเหตุผล มีสติ และอิงกับหลักการทางวิทยาศาสตร์
ทั้งนี้ วันศุกร์ (31 ม.ค.) วอชิงตันประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขและห้ามชาวต่างชาติที่เคยเดินทางไปจีนในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเข้าประเทศเป็นการชั่วคราว รวมทั้งกักตัวพลเมืองอเมริกันที่กลับจากมณฑลหูเป่ย 14 วัน
ในขณะที่องค์การอนามัยโลก (ฮู) แม้ประกาศให้วิกฤตไวรัสอู่ฮั่นเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขทั่วโลก แต่ เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการฮูก็สำทับว่า ไม่มีความจำเป็นต้องจำกัดการค้าและการเดินทางระหว่างประเทศ พร้อมชี้ว่าการห้ามเช่นนั้นอาจจะก่อเกิดผลลบมากกว่าผลบวก และ เรียกร้องให้ทุกชาติตัดสินใจโดยอิงกับข้อมูลหลักฐาน
อย่างไรก็ตาม เวลานี้มีอีกหลายประเทศสั่งแบนชาวจีน เพื่อสกัดการระบาดของไวรัส หลายประเทศกำลังพยายามนำพลเมืองของตนออกจากเมืองอู่ฮั่น
ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า สหรัฐฯเตรียมส่งเครื่องบินไปรับพลเมืองอีกหลายเที่ยว หลังจากรับไปแล้วหนึ่งเที่ยวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
สำหรับรัสเซียจะเริ่มอพยพพลเมืองในวันจันทร์ รวมทั้งสั่งระงับรถไฟโดยสารที่เชื่อมโยงโดยตรงกับจีน
ออสเตรเลียอพยพพลเมืองออกมาแล้ว 243 คนเมื่อวันจันทร์ โดยกักตัวไว้ดูอาการบนเกาะห่างไกล ก่อนหน้านี้เมื่อวันเสาร์แคนเบอร์ราเริ่มงดรับนักเดินทางต่างชาติทั้งหมดที่เดินทางจากจีน
ขณะเดียวกัน นักลงทุนที่หวั่นวิตกผลกระทบจากไวรัสอู่ฮั่นที่จะเกิดกับเศรษฐกิจแดนมังกรพากันเทขายหุ้นในจีนรวมมูลค่าเกือบ 400,000 ล้านดอลลาร์เมื่อวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันแรกที่มีการเปิดซื้อขายหลังหยุดยาวช่วงตรุษจีน โดยดัชนีคอมโพสิตของตลาดเซี่ยงไฮ้ร่วงลง 8% ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 1 ปี ก่อนปิดตลาดโดยกระเตื้องขึ้นมาบ้าง กล่าวคือ ติดลบจากวันก่อน 7.7%
อย่างไรก็ดี แม้ตลาดหุ้นเปิดทำการแล้ว แต่มณฑลจำนวนมากของจีนได้ตัดสินใจขยายวันหยุดเพื่อควบคุมการแพร่เชื้อของไวรัส ซึ่งล่าสุด คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีนแถลงในวันจันทร์ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจนถึงวันอาทิตย์ (2) อยู่ที่ 361 คน เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้า 57 คน ซึ่งนอกจากเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในวันเดียวแล้ว ตัวเลขรวมยังสูงกว่ายอดผู้เสียชีวิตจากโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (ซาร์ส) ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 349 คนในจีนในปี 2002-2003
ส่วนผู้ติดเชื้อในจีนเพิ่มขึ้น 2,829 คน เป็น 17,205 คน นอกจากนั้นยังพบผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 171 คนในกว่า 20 ประเทศทั่วโลก อาทิ อเมริกา ญี่ปุ่น ไทย ฮ่องกง และอังกฤษ
นอกจากนั้น ระหว่างแถลงข่าว โฆษกกระทรวงการต่างประเทศยังระบุว่า จีนต้องการหน้ากากสำหรับแพทย์ ชุดป้องกัน และแว่นตานิรภัยเป็นการด่วน เนื่องจากโรงงานภายในประเทศสามารถผลิตหน้ากากได้ราว 20 ล้านชิ้นต่อวันเท่านั้น และรัฐบาลกำลังดำเนินการเพื่อนำเข้าหน้ากากเพิ่มจากยุโรป ญี่ปุ่น และอเมริกา
ขณะเดียวกันก็เสริมว่า หลายประเทศ เช่น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น คาซัคสถาน และฮังการี ได้บริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้จีนก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ นอกจากมณฑลหูเป่ยที่มีอู่ฮั่นเป็นเมืองเอกแล้ว ยังมีอีกหลายมณฑลและหลายเมืองทั่วประเทศที่บังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากเมื่อออกจากบ้าน
วันจันทร์ โรงพยาบาลหั่วเสินซาน ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาด 1,000 เตียงที่รัฐบาลสั่งสร้างขึ้นเพื่อรักษาผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาเปิดทำการเป็นวันแรก หลังจากใช้เวลาก่อสร้างเพียง 10 วัน โดยมีบุคลากรทางการแพทย์จากกองทัพราว 1,400 คนปฏิบัติหน้าที่
สำนักข่าวซินหวายังรายงานว่า ทีมแพทย์ 68 ทีมที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ 8,300 คนจากทั่วประเทศ ถูกส่งไปยังหูเป่ยแล้วเพื่อช่วยควบคุมการระบาดของไวรัส