รอยเตอร์ - เที่ยวบินลำหนึ่งซึ่งบรรทุกพลเมืองอังกฤษ 83 คนและพลเมืองสหภาพยุโรป 27 คน ออกจากอู่ฮั่น เมืองเอกของมณฑลหูเป่ย ลงจอดในอังกฤษแล้วในวันศุกร์(31ม.ค.) และมีกำหนดบินไปยังสเปน จุดหมายปลายทางในลำดับต่อไป
ชาวอังกฤษที่เดินทางกลับมาพร้อมเที่ยวบินลำนี้จะถูกกักโรคเป็นเวลา 14 วันที่สถาบันพยาบาลแห่งหนึ่งในระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ(NHS) ทางภาคตะวันตกของประเทศ
เบน วิลเลียมส์ หนึ่งในพลเมืองอังกฤษที่เดินทางมาพร้อมกับเที่ยวบินดังกล่าว ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์บีบีซี ว่าเขาเพิ่งแต่งงานในจีนและอยู่ระหว่างฮันนีมูน แต่ถูกบีบให้ต้องทิ้งภรรยาชาวจีนไว้เบื้องหลัง เนื่องจากไม่มีเวลาเตรียมพร้อมในการนำตัวเธอออกมา
"หวังว่ามันจะกินเวลาแค่ไม่กี่เดือน" เขากล่าว "มันเป็นเรื่องดีที่ได้กลับมา แต่ผมก็คิดถึงจีนเช่นกัน"
คริส วิตตี้ หัวหน้าเจ้าหน้าที่แพทย์ของอังกฤษ เปิดเผยว่าจะมีการกักกันโรคผู้ที่เดินทางกลับมาเป็นเวลา 14 วัน โดยมีความตั้งใจให้พวกเขาพักอยู่ใกล้ๆบริการทางการแพทย์ ในกรณีทีมีเหตุจำเป็น "สิ่งที่เราหวังคือคนเหล่านี้ทั้งหมดจะถูกกันออกจากสาธารณชนเป็นเวลา 14 วัน แต่ไม่ใช่ในลักษณะของการขังเดี่ยว และจากนั้นพวกเขาจะได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ในกรณีที่ไม่มีอาการป่วยใดๆ"
ไมเคิล โกฟ รัฐมนตรีระดับอาวุโสระบุว่าอังกฤษจะส่งเครื่องบินอีกลำไปรับพลเมืองกลับมาจากอู่ฮั่น หากมีความจำเป็น
การกลับสู่มาตุภูมิของพลเมืองอังกฤษที่อยู่ในอู่ฮั่น มีขึ้นหลังผู้ป่วย 2 คนจากครอบครัวเดียวกันในอังกฤษมีผลตรวจไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ออกมาเป็นบวก นับเป็นเคสเป็นติดเชื้อ 2 รายแรกในอังกฤษ
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของอังกฤษ เพิ่งเตือนว่าสหราชอาณาจักรมีแนวโน้มสูงที่จะมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งกำลังแพร่ระบาดอย่างหนักในอู่ฮั่น และทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 213 ราย
วิตตี้ ระบุว่า ผู้ป่วยสองรายนี้กำลังเข้ารับการรักษาพิเศษจากศูนย์บริการสาธารณสุขแห่งชาติ (NHS) ซึ่งทีมเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามขั้นตอนควบคุมผู้ติดเชื้อ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส
"NHS มีการเตรียมพร้อมเป็นอย่างดี และคุ้นเคยกับการรับมือผู้ติดเชื้อ เราพร้อมจะทำงานอย่างเร่งด่วนเพื่อระบุตัวผู้ที่เคยพบปะกับผู้ป่วย เพื่อป้องกันการระบาด" เขากล่าว
วิตตี้ไม่เปิดเผยว่าบริเวณใดในอังกฤษที่ตรวจพบการติดเชื้อครั้งนี้ เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนตัวของผู้ป่วยที่ถือว่าเป็นความลับ
เมื่อวันพฤหัสบดี อังกฤษเพิ่งยกระดับความเสี่ยงการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในประเทศ จากระดับต่ำไปเป็นปานกลาง หลังจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้เป็นภาวะฉุกเฉินสาธารณสุขโลก