เอเจนซีส์/MGR ออนไลน์ - จำนวนตัวเลขผู้เสียชีวิตในจีนล่าสุด 213 คนเพิ่มจากเมื่อวาน 170 คน คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มถึง 25% ส่วนยอดติดเชื้อในจีน 9,096 เคส เพิ่มจากเมื่อวาน 7,711 เคส คิดเป็นการเพิ่มตลอด 24 ชั่วโมงที่ 17% ในขณะเดียวกัน หน้ากากป้องกันมีการขาดตลาดเกิดขึ้นทั้งในยุโรปและสหรัฐฯเนื่องจากผู้บริโภคเกิดการวิตกถึงถึงการแพร่ระบาดที่ในเวลานี้พบว่าไวรัสโคโรนาสามารถแพร่ระบาดจากคนสู่คนได้แล้ว
หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษรายงานวันนี้ (31 ม.ค.) ว่า ในการวิเคราะห์ถึงจำนวนตัวเลขเกี่ยวข้องกับการระบาดโรคโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่พบว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตในจีนผ่านหลัก 200 ไปแล้วเมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อวานนี้ (30)
ล่าสุดอยู่ที่ 213 คน เพิ่มจาก 170 คนคิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 25% สำหรับการเสียชีวิตในจีนภายใน 24 ชั่วโมงซึ่งดูเหมือนต่ำกว่าเมื่อวานนี้ (30) ที่เพิ่มขึ้น 29% ที่อาจจะเป็นข่าวดีแต่ต้องดูกันต่อไป
ส่วนยอดผู้ติดเชื้อในจีนล่าสุดอยู่ที่ 9,096 คนเพิ่มจากตัวเลขติดเชื้อเมื่อวาน (30) ที่ 7,711 คน คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 18 % ภายใน 24 ชั่วโมง
ส่วนยอดอัตราการเพิ่มการติดเชื้อระหว่างวันพุธ (29) และวันพฤหัสบดี (30) อยู่ที่ 29%
และประเมินว่าน่าจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อรวมภายในจีนอยู่ที่ 12,167 คน และมีการได้รับการรักษาจนหายป่วยไป 163 คน ส่วนเคสการป่วยนอกประเทศจีนนั้นเพิ่มคิดและมีจำนวนมากกว่า 100 ราย
และมีรายงานว่ามีตัวเลขผู้ติดเชื้อนอกประเทศจีนที่ 129 รายใน 22 ประเทศทั่วโลกล่าสุด
สื่ออังกฤษรายงานว่า มีการคาดว่ารัฐบาลอังกฤษจะสามารถอพยพพลเมือง 150 คนออกจากเมืองอู่ฮั่นได้ภายในวันศุกร์ (31) ตามเวลาท้องถิ่น
เดอะการ์เดียนรายงานว่า แมตต์ รอว์ (Matt Raw) ที่มีรายงานก่อนหน้าว่าไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางออกจากเมืองอู่ฮั่นพร้อมกับภรรยาชาวจีน “ยิง” (Ying) ล่าสุดแมตต์ที่ปรากฎตัวพร้อมกับหน้ากากกรองอากาศกันแก๊สพิษแบบจัดเต็มยืนยันว่า เขาได้รับอนุญาตให้สามารถเดินทางออกจากเมืองอู่ฮั่นได้แล้ว โดยแมตต์กล่าวในขณะอยู่ภายในสนามบินอู่ฮั่น
ส่วนฝรั่งเศสสามารถอพยพพลเมือง 200 คนออกจากเมืองอู่ฮั่น ซึ่งมีนักข่าวอยู่บนเครื่อง โดยพลเมืองเหล่านี้เดินทางด้วยเครื่องบินทหารเข้าสู่ทางใต้ของฝรั่งเศส ส่วนสหรัฐฯและญี่ปุ่นได้อพยพพลเมืองตนเองออกไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนอียูกำลังวางแผนเตรียมการอพยพชาติสมาชิกอียูอื่นๆต่อไป
ในขณะเดียวกัน พบว่าหลังจากที่หน้ากากป้องกันในเอเชียเกิดขาดตลาดอย่างฉับพลันเนื่องมาจากมีความวิตกถึงการแพร่ระบาด ล่าสุดอ้างอิงการรายงานจากไฟแนนเชียลไทม์สพบว่า หน้ากากอนามัยขาดตลาดทั้งในยุโรปและสหรัฐฯ เช่นเดียวกัน ซึ่งบรรดาผู้ผลิตต่างกำลังพยายามเพิ่มการผลิตเพื่อให้ทันต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้น โดยทางกลุ่ม 3M กรุ๊ปได้กล่าวในสัปดาห์นี้ว่า ได้ทำการเพิ่มกำลังการผลิต และอยู่ในระหว่างร่วมมือกับผู้จำหน่ายว่า สินค้าจะต้องถึงมือผู้บริโภคปลายทาง
นอกจากนี้ 3M กรุ๊ป ที่มีฐานอยู่ในรัฐมินเนโซตา กล่าวว่า ที่จากปัญหาไฟป่าในออสเตรเลียและภูเขาไฟระเบิดในฟิลิปปินส์สร้างแรงกดดันให้กับกำลังการผลิตของบริษัท ทางบริษัทได้อยู่ในระหว่างการเฝ้าสังเกตความต้องการและจะทำให้มั่นใจว่าสินค้าสำหรับใน 2 ประเทศนี้ต้องมีพร้อมให้กับผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้
ส่วนอีกบริษัทสัญชาติอังกฤษจำหน่ายเครื่องมือปฐมพยาบาลเบื้องต้น คือ SP เซอร์วิสเซส (SP Services) ที่ประสบกับยอดความต้องการ 2 ปีที่เกิดขึ้นฉับพลันในสัปดาห์ที่ผ่านมา กำลังอยู่ในระหว่างการหาแหล่งหน้ากากอนามัยจากแหล่งซัพพลายเออร์ที่กว้างขึ้น
ผู้อำนวยการบริหารที่บริษัทมีฐานอยู่ในเทลฟอร์ด (Telford) ไซมอน เลกเกตต์ (Simon Leggett) กล่าวว่า “ยี่ห้อ 3M เป็นที่ต้องการมาก เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการในเวลานี้”
นอกจากนี้ บริษัท เคมบริดจ์ มาสก์ (Cambridge Mask) ที่มีฐานอยู่ในอังกฤษและผลิตหน้ากากสำหรับเพื่อใช้ในกองทัพตกอยู่ภายใต้ความกดดันนี้ ไฟแนนเชียลไทม์สกล่าว โดยทางบริษัทได้รับคำสั่งซื้อจากประเทศต่างๆรวมถึง ฝรั่งเศสและเปอร์โตริโกระหว่าง 500,000-1 ล้านชิ้นทำให้ทางบริษัทจำหน่ายสินค้าจนเกลี้ยงคลัง
ซีอีโอ คริสต์ ดอบบิง (Chris Dobbing) กล่าวว่า “มันบ้ามาก ถือเป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นการแตกตื่นหน้ากากป้องกันระดับโลก”
ทั้งนี้ พบว่าทางบริษัทฯ ได้เพิ่มกำลังการผลิตที่โรงงานในเซียะเหมิน (Xiamen) ของจีน และบาตาม (Batam) อินโดนีเซีย โดยกล่าวร้องขอให้ทางลูกค้าใจเย็น พร้อมยืนยันว่าสินค้าจะพร้อมส่งก็ต่อเมื่อราวสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ไปแล้ว
บริษัทร้านยาสหรัฐฯ CVS ที่มีร้านสาขาในเครือทั่วประเทศ 9,900 แห่งกล่าวว่า ในเวลานี้ทางบริษัทกำลังทำงานกับซัพพลายเออร์เพื่อทำให้ความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นของผู้บริโภคนั้นสมารถได้รับการตอบสนอง
หนึ่งในผู้ช่วยประจำร้านยา CVS ในย่านโซโหของแมนแฮตตัน เปิดเผยว่า “พวกมัน (หน้ากากอนามัย) ขายหมดทุกแห่ง” โดยทางบริษัทได้ร้องขอให้ทำการรายงานสินค้าขาดโดยเร็วที่สุด
ด้าน เรย์ สกอตต์ (Ray Scott ) เจ้าของร้านขายยาออนไลน์ ATC เมดิคอล(ATC Medical) ในรัฐเทนเนสซี กล่าวว่า “(ผู้บริโภค) ซื้อหน้ากากทุกแบบที่มี โดยในตอนแรกเลือกแบบที่เฉพาะเจาะจง แต่เมื่อสินค้าหมด พวกเขาได้มองหาไปที่แบบอื่นจนทุกอย่างหมดเกลี้ยง”
