มาร์เก็ตวอตช์/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันทรงตัวในกรอบแคบๆวันพุธ(29ม.ค.) หลังพบสต๊อกปิโตรเลียมสหรัฐฯเพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่วนวอลล์สตรีทปรับขึ้นได้แรงหนุนจากแอปเปิลและโบอิ้ง ขณะที่ทองคำปิดบวก นักลงทุนถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ ท่ามกลางวิกฤตไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 15 เซนต์ ปิดที่ 53.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 30 เซ็นต์ ปิดที่ 59.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสรัฐฯ(อีไอเอ) เผยแพร่รายงานในวันพุธ(29ม.ค.) ระบุคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 มกราคม เพิ่มขึ้น 3.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมายไว้ราวๆ 2 เท่า
นอกจากนี้แล้วรายงานของอีไอเอยังพบว่าคลังน้ำมันเบนซินสำรองในสัปดาห์เดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรลและคลังสำรองน้ำมันกลั่น ลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวัพุธ(29ม.ค.) ปิดบวก ได้แรงหนุนจากแอปเปิลและโบอิ้ง ตามรายงานผลประกอบการรายไตรมาสของทั้ง 2 บริษัท แม้มีความกังวลว่าการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่จะก่อความเสียหายทางเศรษฐกิจก็ตาม
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 11.60 จุด (0.04 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 28,734.45 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 2.84 จุด (0.09 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,273.40 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 5.48 จุด (0.06 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 9,275.16 จุด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯแทบไม่ขานรับต่อถ้อยแถลงของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด ซึ่งมีมติในวันพุธ(29ม.ค.) คงอัตราดอกเบี้ยตามความคาดหมาย และไม่นำเสนอคำชี้ทางใหม่ๆหรือพาดพิงใดๆถึงความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีน
เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับปัจจุบันที่ 1.50% ถึง 1.75% หลังจากปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งสุดท้ายในเดือนตุลาคม ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 3 ของปี 2019
ถ้อยของเฟดระบุว่านโยบายการเงินในปัจจุบันมีความเหมาะสมต่อการสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่ตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง และการใช้จ่ายในภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นในอัตราปานกลาง แต่การลงทุนในภาคธุรกิจและการส่งออกยังคงอ่อนแอ
นอกจากนี้ เฟดได้เปลี่ยนแปลงถ้อยคำในแถลงการณ์เพื่อเน้นย้ำภารกิจในการผลักดันอัตราเงินเฟ้อไปสู่เป้าหมายของเฟด โดยระบุว่า "เฟดจะดำเนินการให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด" จากเดิมที่เฟดมักระบุว่า "เฟดกำลังพิจารณาเพื่อให้อัตราเงินเฟ้อเข้าใกล้ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด"
แอปเปิล อิงค์ ปิดบวก 3.05% หลังจากผู้ผลิตไอโฟนแห่งนี้ระบุในรายงานผลประกอบการเมื่อช่วงค่ำวันอังคาร(28ม.ค) ว่ามีรายได้ในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นไตรมาสแห่งฤดูกาลช็อปปิ้งเกินคาดหมาย
ขณะเดียวกัน โบอิ้ง โค เพิ่มขึ้น 2.65% หลังจากผู้ผลิตเครื่องบินหแงนี้ ประมาณการว่าจะมีค่าใช้จ่ายเกือบๆ 19,000 ล้านดอลลาร์ อันเกี่ยวข้องกับฝูงบิน 737 แม็กซ์ ที่ถูกงดบินทั่วโลก แต่ถือว่าน้อยกว่าที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมาย และช่วยกลบความผิดหวังที่ทางบริษัทขาดทุนรายปีเป็นหนแรกนับตั้งแต่ปี 1997
ส่วนราคาทองคำในวันพุธ(29ม.ค.) ปรับขึ้นเล็กน้อย นักลงทุนทบทวนข้อมูลของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และความเป็นไปได้ที่มันจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 60 เซนต์ ปิดที่ 1,570.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์