เอเจนซีส์ – เจ้าหน้าที่ชนเผ่าพื้นเมืองออสเตรเลียอนุญาตให้สามารถฆ่าอูฐป่าสูงสุดถึง 10,000 ตัวทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐเซาท์ออสเตรเลียหลังจากที่ฝูงอูฐป่าเร่ร่อนเสาะหาแหล่งน้ำท่ามกลางสภาพแล้งจัดในพื้นที่ พบมือสไนเปอร์ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ยิงลงมาเพื่อจัดการฝูงอูฐเร่ร่อนเป็นเวลา 5 วันเริ่มตั้งแต่วันพุธ(8 ม.ค)
หนังสือพิมพ์ยูเอสเอทูเดย์รายงานเมื่อวานนี้(8 ม.ค)ว่า เจ้าหน้าที่ในดินแดนอนังกู พิตจานตจาตจารา ยานกูนิตจาตตารา( Anangu Pitjantjatjara Yankunytjatjara) หรือ APY ในทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐเซาท์ออสเตรเลียได้เห็นชอบในการสังหารหมู่อูฐป่าทางอากาศหลังจากได้รับคำร้องเรียนจากชาวเมืองที่ต่างกล่าวว่า เห็นฝูงอูฐเร่ร่อนขนาดใหญ่และสัตว์ป่าอื่นๆในชุมชนเมือง
ในแถลงการณ์ที่ออกมาทางเฟซบุ๊ก เจ้าหน้าท้องถิ่นออสเตรเลียกล่าวอูฐและสัตว์ป่าอื่นๆ หรือสัตว์ที่ไม่ได้ทำให้เชื่องกำลังแสวงหาแหล่งน้ำ แต่ทว่า “อูฐ” ถือเป็นเป้าหมายหลักสำหรับการสังหาร บรรดาผู้นำรัฐบาลได้ประชุมบอร์ดเมื่อวันที่ 11 ธ.ค ที่ผ่านมาเพื่อหารือปัญหาสัตว์ป่าเร่ร่อนเหล่านี้ และคำสั่งให้กำจัดได้รับการอนุมัติโดยเริ่มกำจัดอูฐได้ตั้งแต่วันพุธ(8)เป็นต้นมาซึ่งจะเป็นระยะเวลานาน 5 วัน
“เนื่องมาจากสถานการณ์แล้งที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง(และ) การรวมฝูงขนาดใหญ่ของอูฐสร้างความคุกคามให้กับชุมชน APY และระบบสาธารณูปโภค การควบคุมอูฐทันทีถือเป็นสิ่งจำเป็น” รายงานจากแถลงการณ์รัฐบาลท้องถิ่นของออสเตรเลีย
ดินแดน APY มีพื้นที่ครอบคลุมราว 39,768 ตารางไมล์ซึ่งเป็นดินแดนที่แห้งแล้ง อ้างอิงจากเว็บไซต์รัฐบาล พื้นที่นั้นใหญ่เป็น 3 เท่าของอังกฤษ ผู้จัดการทั่วไป ริชาร์ด คิง(Richard King)ให้สัมภาษณ์กับยูเอสเอทูเดย์ผ่านทางโทรศัพท์
คิงเปิดเผยว่า อูฐเป็นต้นเหตุสร้างความเสียหาย และกล่าวว่าเขาเตรียมพร้อมสำหรับอูฐป่าจำนวนสูงสุด 10,000 ตัว และอูฐจำนวน 5,000 ตัวได้สร้างแรงกดดันแล้วในเวลานี้
“ตัวเลขดูเหมือนมากและเป็นจำนวนที่มาก” คิงกล่าวและเสริมต่อว่า “แต่ทว่าในแผนการที่ใหญ่ ตัวเลขนี้เป็นแค่ 1% ของประชากรสัตว์ป่าเท่านั้น”
โดยเขาเรียกการกำจัดว่าเป็นหนทางเลือกสุดท้าย คิงยังระบุว่าสัตว์ป่าประจำทวีปออสเตรเลียเป็นต้นว่า จิงโจ้และวอลลาบีและสัตว์ป่าเสี่ยงสูญพันธุ์อื่นต่างต้องอยู่ภายใต้ความกดดันจากจำนวนที่มากเพราะต้องแข่งขันในการแย่งน้ำและอาหาร
นอกจากนี้คิงกล่าวว่า อุณหภูมิในพื้นที่ได้สูงกว่า 120 องศาฟาเรนไฮต์แล้ว
“สิ่งที่อูฐทำคือหาแหล่งชุ่มชื้นในอากาศเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกมันทำได้” และกล่าวต่อว่า “พวกคุณมีชนเผ่าพื้นเมืองอาศัยอยู่ที่นั่น มีบางส่วนมีเครื่องปรับอากาศใช้ บางส่วนมีพัดลมไอน้ำ และเมื่ออูฐได้กลิ่นพวกมันจะผลักและผลักจากว่าจะสามารถไปถึงแหล่งได้”
ในขณะที่โฆษกแผนกสิ่งแวดล้อมประจำรัฐเซาท์ออสเตรเลียได้ให้สัมภาษณ์กับ CBS NEWSว่า อูฐสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อระบบสาธารณูปโภค เป็นอันตรายต่อครอบครัวและชุมชน และมีอูฐบางส่วนได้ตายเนื่องมาจากขาดน้ำอย่างหนักหรือถูกเหยียบทับกันจนตายจากความพยายามแย่งเข้าไปให้ถึงแหล่งน้ำ
ทั้งนี้มีการคาดว่าประชากรอูฐในออสเตรเลียมีทั้งหมดราว 1 ล้านตัว และมีอัตราการเติบโตที่ 8% ต่อปี
สื่อสหรัฐฯชี้ว่า การยิงจากเฮลิคอปเตอร์ทางอากาศถูกใช้กับอูฐเนื่องจากมีขนาดฝูงใหญ่ในการลดขนาดจำนวนฝูงในพื้นที่ห่างไกลหรือพื้นที่เข้าไม่ถึงในออสเตรเลีย
คิงเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำการเคลื่อนย้ายเป็นระยะปีครึ่งเมื่อปีที่แล้ว “เรามีสถานที่เพียงแห่งเดียวที่สามารถรองรับพวกมันไว้” และกล่าวต่อว่า “พวกเขาฆ่าและส่งออกอูฐราว 250 ตัวต่อสัปดาห์ เราสามารถส่งออกได้นานถึง 30 ปีแต่กระนั้นยังไม่สามารถทันต่ออัตราการเกิดของพวกมัน อูฐมีจำนวนเพิ่มเป็น 2 เท่าในทุก 7 ปี เรามีอัตราประชากร 1 ล้านตัวในปัจจุบัน และในอีก 7 ปีข้างหน้าเราจะมีราว 2 ล้านตัว”
