เอเจนซีส์ - นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น อาจยกเลิกแผนเดินทางไปตะวันออกกลาง ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้น จากการเปิดเผยของแหล่งข่าวในวันพุธ (8 ม.ค.) ขณะที่โตเกียวเรียกร้องให้ลดสถานการณ์ตึงเครียดด้วยวิธีทางการทูต
เดิมทีอาเบะมีแผนจะไปเยือนซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และโอมาน ตั้งแต่วันเสาร์ที่จะถึงนี้ โดยจะเป็นการรวบรวมข้อมูลก่อนที่จะทำการส่งกองกำลังป้องกันตนเองไปตะวันออกกลาง
การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่อิหร่านทำการยิงมิสไซล์หลายสิบลูกเข้าใส่ฐานทัพในอิรัก ซึ่งมีทหารอเมริกันและกองกำลังพันธมิตรนานาชาติประจำการอยู่ โดยเป็นการตอบโต้ที่อเมริกาสังหารนายทหารระดับสูงของอิหร่าน
"ผมจะใช้ความพยายามทางการทูตทั้งหมดที่ทำได้เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายไปกว่านี้" อาเบะบอกนักข่าว
อาเบะพยายามจะทำตัวเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยระหว่างอิหร่าน-สหรัฐฯ ซึ่งขัดแย้งกันมากขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ทรัมป์นำอเมริกาถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ และใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน
โยชิฮิเดะ ซูกะ หัวหน้าเลขาคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องยับยั้งการใช้กำลัง พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องใช้ความพยายามทางการทูตอย่างเต็มที่
"เราเป็นกังวลอย่างมาก จากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง และเราจะต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้สถานการณ์มันรุนแรงมากขึ้นกว่านี้" ซูกะ ระบุในการแถลงข่าว