เอเอฟพี - เกิดเหตุอาคารสูง 5 ชั้นพังถล่มในกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซียเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (6 ม.ค.) เบื้องต้นมีรายงานผู้บาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาล 2 ราย
ภาพจากสถานีโทรทัศน์เผยให้เห็นสภาพของอาคารที่ทรุดตัวลงมาและมีเศษคอนกรีตเกลื่อนกระจายอยู่ตามพื้นถนน ขณะที่หน่วยกู้ภัยทยอยหามผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล
อาคารหลังนี้ถูกใช้เป็นทั้งอาคารพาณิชย์และที่อยู่อาศัย โดยมีร้านสะดวกซื้ออยู่ที่ชั้นล่างสุด ส่วนชั้นบนแบ่งพื้นที่ให้เช่า
“ชั้นบนๆ ของอาคารไม่มีคนอยู่ ส่วนชั้นสองเป็นโกดังเก็บสินค้าและเป็นห้องพักผ่อนสำหรับพนักงาน” ออดี้ ลาตูเฮรู ผู้บัญชาการตำรวจกรุงจาการ์ตาฝั่งตะวันตก ระบุ “พนักงานทุกคนพากันวิ่งหนีเมื่อได้ยินเสียงอาคารลั่น ส่วนผู้บาดเจ็บ 2 คนอยู่ด้านนอกตอนที่อาคารถล่มลงมา”
ด้านสำนักงานค้นหาและช่วยชีวิตของอินโดนีเซียให้ตัวเลขผู้บาดเจ็บเอาไว้ทั้งหมด 3 ราย
สื่ออิเหนารายงานในช่วงแรกๆ ว่ามีผู้บาดเจ็บมากถึง 8 คน แต่ต่อมาทางตำรวจอธิบายว่าตัวเลขดังกล่าวรวมผู้ที่ถูกอพยพออกจากอาคารด้วย
ล่าสุด ยังไม่มีการระบุว่าอาคารพังถล่มด้วยสาเหตุใด และเกี่ยวข้องหรือไม่กับวิกฤตน้ำท่วมจากฝนที่ตกหนักเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งคร่าชีวิตชาวอิเหนาไปไม่ต่ำกว่า 60 คน
เจ้าหน้าที่ค้นหาและช่วยชีวิตเชื่อว่าเหตุอาคารถล่มครั้งนี้อาจมีสาเหตุมาจากฝน
“เราพบร่องรอยน้ำท่วมที่ดาดฟ้าอาคาร ส่วนชั้นที่ 3 และ 4 ก็ไม่ได้ติดตั้งระบบระบายน้ำ”บูดี ปุรนามา ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของสำนักงานค้นหาและช่วยชีวิต ระบุ
“น้ำซึมเข้าไปในผนัง จนกระทั่งโครงสร้างอาคารรับไม่ไหว”
ตำรวจและผู้ที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่าอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาราว 9.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น
“จู่ๆ ตึกก็พังลงมา เสียงดังนั่นหวั่นไหว มันเกิดขึ้นเร็วมากในเวลาไม่กี่วินาที” ริดวาน เรีย เจ้าของร้านค้าวัย 60 ปี บอกกับเอเอฟพี พร้อมยืนยันว่าไม่ได้ยินเสียงอาคารลั่นผิดปกติมาก่อน
พนักงานร้านสะดวกซื้อคนหนึ่งให้ข้อมูลกับตำรวจว่า ตัวอาคารเริ่มเอียงไปด้านหนึ่งตั้งแต่เมื่อ 2 ปีที่แล้ว
มาตรฐานความปลอดภัยในการก่อสร้างที่ค่อนข้างหละหลวมถือเป็นปัญหาใหญ่ในอินโดนีเซีย โดยเมื่อปี 2018 มีเด็กวัยรุ่นซึ่งกำลังฝึกเต้นและแสดงดนตรีเสียชีวิตไป 7 คนในเหตุอาคารถล่มที่เมืองจิเรบน (Cirebon) ทางตะวันออกของกรุงจาการ์ตา และในปีเดียวกันยังเกิดเหตุชั้นลอยของอาคารตลาดหลักทรัพย์ในกรุงจาการ์ตาพังลงมาใส่ผู้คนที่นั่งอยู่ในล็อบบี้ทำให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 75 คน
