รอยเตอร์ - เหตุน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในกรุงจาการ์ตาและปริมณฑลคร่าชีวิตชาวอิเหนาเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 21 รายวันนี้ (2 ธ.ค.) ขณะที่ทางการอินโดนีเซียเตือนประชาชนให้เตรียมรับมือกับฝนที่จะตกหนักต่อเนื่อง
หลายพื้นที่ในกรุงจาการ์ตาและเมืองใกล้เคียงอยู่ในสภาพจมบาดาล หลังมีฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค. เรื่อยมาจนถึงเช้าวันขึ้นปีใหม่
อุทกภัยซึ่งถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบหลายปีทำให้ชาวอินโดนีเซียกว่า 30,000 คนต้องพลัดถิ่นฐานบ้านเรือน และสร้างความปั่นป่วนต่อผู้คนในเมืองหลวง เนื่องจากรถไฟต้องหยุดให้บริการและไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่
โจโค ฮาริยันโต โฆษกกระทรวงกิจการสังคมของอินโดนีเซีย ให้ข้อมูลกับรอยเตอร์ว่ายอดผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยคราวนี้เพิ่มขึ้นเป็น 21 ราย
ทางการอิเหนาไม่ได้แจ้งรายละเอียดว่าเหยื่อแต่ละรายเสียชีวิตจากสาเหตุใดบ้าง แต่มีรายงานก่อนหน้านี้ว่าพบผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำ 4 ราย, ถูกไฟฟ้าช็อต 4 ราย, ถูกดินถล่มทับ 4 ราย และอีก 3 รายเสียชีวิตจากภาวะตัวเย็น (hypothermia)
สำนักงานธรณีฟิสิกส์ของอินโดนีเซียพยากรณ์ว่าจะมีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในช่วงบ่ายวันนี้ (2)
ประธานาธิบดี โจโค วิโดโด ให้สัมภาษณ์สื่อในวันนี้ (2) ว่า แผนการอพยพประชาชนและมาตรการรักษาความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญที่สุด ขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้ฝ่ายบริหารท้องถิ่นให้ความร่วมมือกับส่วนกลางมากกว่านี้
วิโดโด ยังทวีตตำหนิความล่าช้าในโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคเพื่อป้องกันน้ำท่วม โดยชี้ว่าโครงการเหล่านี้ถูกชะลอมาตั้งแต่ปี 2017 เนื่องจากประสบปัญหาเรื่องการเวนคืนที่ดิน
กรุงจาการ์ตาและปริมณฑลมีประชากรอยู่อาศัยมากกว่า 30 ล้านคน โดยเหตุการณ์อุทกภัยเมื่อปี 2007 เคยคร่าชีวิตผู้คนในเมืองหลวงแห่งนี้ไปกว่า 50 ราย
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ฝ่ายบริหารกรุงจาการ์ตาพยายามปรับปรุงพื้นที่ลุ่มต่ำในเมืองหลวงเพื่อบรรเทาผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำในฤดูมรสุม