เอเอฟพี/เอพี/รอยเตอร์ – ทางการผู้รับผิดชอบด้านสาธารณสุขของจีนในเมืองอู่ฮั่น แถลงคืนวันอาทิตย์ (5 ม.ค.) ว่า การแพร่ระบาดของอาการปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสลึกลับ ซึ่งสร้างความหวาดผวาตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมานั้น ทราบชัดเจนแล้วว่าไม่ใช่เป็นโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (ซาร์ส) ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปหลายร้อยคนเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว รวมทั้งไม่ใช่โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (เมอร์ส) ตลอดจนไม่ใช่โรคไข้หวัดนก
มีรายงานการติดเชื้อโรคลึกลับนี้ครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในเมืองอู่ฮั่น เมืองใหญ่ทางภาคกลางของจีนซึ่งมีประชากรมากกว่า 11 ล้านคน และนำไปสู่การคาดเดากันทางออนไลน์ด้วยความสงสัยว่า โรคซาร์ส (SARS ย่อมาจาก Severe Acute Respiratory Syndrome) ที่ติดต่อระหว่างคนกับคนได้ง่าย กำลังเกิดการระบาดขึ้นมาอีก
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการสาธารณสุขเทศบาลนครอู่ฮั่นออกคำแถลงโพสต์ทางเว็บไซต์ของตนในคืนวันอาทิตย์ (5) ว่า จากการวินิจฉัยโรค ทำให้เวลานี้สามารถตัดทิ้งสมมุติฐานหลายๆ ประการออกไปได้แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้อเท็จจริงที่มีอยู่แสดงให้เห็นว่า โรคนี้ไม่ใช่เป็นไข้หวัดใหญ่ (flu), ไข้หวัดนก (avian flu), เชื้ออดิโนไวรัส (adenovirus), ซาร์ส (SARS), หรือ เมอร์ส (MERS ย่อมาจาก Middle East Respiratory Syndrome) ทั้งนี้ทางคณะกรรมการยังคงกำลังทำงานเพื่อให้สามารถระบุได้อย่างชัดเจนถึงสาเหตุและต้นตอที่มาของการเกิดระบาดคราวนี้
คำแถลงฉบับนี้ระบุด้วยว่า จวบจนกระทั่งถึงวันอาทิตย์ (5) ได้รับรายงานผู้ป่วยด้วยอาการปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นโรคอะไรแน่นี้ จำนวนทั้งสิ้น 59 ราย ในนี้อาการสาหัส 7 ราย ทว่ายังไม่มีผู้เสียชีวิต ทั้งหมดกำลังได้รับการรักษาภายในพื้นที่กักกันโรค นอกจากนั้นยังมีผู้ที่สัมผัสกับคนไข้เหล่านี้รวม 163 คนซึ่งกำลังได้รับการดูแลเฝ้าระวังทางการแพทย์
ในคำแถลงบอกด้วยว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่พบหลักฐานชัดเจนใดๆ ที่แสดงให้เห็นว่าโรคนี้มีการติดต่อระหว่างคนกับคน
ทั้งนี้การระบาดเกิดขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 12 ถึง 29 ธันวาคม โดยที่คนไข้บางรายเป็นลูกจ้างพนักงานซึ่งทำงานในตลาดอาหารทะเลแห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งได้ถูกสั่งปิดแล้วเพื่อไม่ให้เชื้อแพร่ออกไปอีก
ขณะที่ตำรวจนครอู่ฮั่นแถลงเมื่อวันพุธ (1) ว่าได้จับกุมลงโทษผู้คน 8 คน สำหรับ “การเผยแพร่หรือการฟอร์เวิร์ดข้อมูลข่าวสารผิดๆ บนอินเทอร์เน็ตโดยที่ไม่มีการตรวจสอบก่อน”
ทางด้านองค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวในวันอาทิตย์ (5) ว่า จากรายงานที่มีการเชื่อมโยงไปถึงตลาดค้าส่งปลาและสัตว์มีชีวิต อาจเป็นเครื่องบ่งชี้ให้เห็นว่าการติดโรคเกี่ยวข้องโยงใยไปถึงสัตว์
อาการโรคที่มีรายงานว่าพบในคนไข้เหล่านี้ที่สำคัญคือ มีไข้ โดยที่บางรายมีอาการหายใจลำบาก และจากภาพเอ็กซเรย์หน้าอกแสดงให้เห็นรอยโรคที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วในปอดทั้ง 2 ข้าง
“อาการต่างๆ ตามที่รายงานว่าพบในหมู่คนไข้เหล่านี้ เป็นอาการร่วมของเชื้อโรคระบบทางเดินหายใจจำนวนมาก และอาการปอดอักเสบก็เป็นสิ่งที่พบบ่อยในฤดูหนาว” คำแถลงของ WHO ระบุ พร้อมกับเสริมว่าการที่มีผู้ป่วยในระดับเข้มข้นเช่นนี้ ควรที่จะจัดการรับมือ “อย่างสุขุมรอบคอบ”
คำแถลงบอกด้วยว่า องค์การอนามัยโลกเห็นว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะประกาศใช้มาตรการจำกัดการเดินทางหรือการค้ากับจีน
ส่วนที่ฮ่องกง สำนักงานกำกับโรงพยาบาลแถลงในวันอาทิตย์ว่า มีคนไข้รวม 15 คนในฮ่องกงกำลังได้รับการรักษาด้วยอาการซึ่งมีทั้งเป็นไข้และการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ภายหลังที่ได้เดินทางไปเมืองอู่ฮั่นเมื่อเร็วๆ นี้
ขณะที่ โซเฟีย ชาน รัฐมนตรีด้านสาธารณสุขของฮ่องกงแถลงวันอาทิตย์ (5) เช่นกันว่า ได้สั่งการให้โรงพยาบาลต่างๆ ตลอดจนแพทย์รีบรายงาน หากพบผู้ป่วยเป็นไข้ ซึ่งเพิ่งเดินทางไปอู่ฮั่นในช่วง 14 วันที่ผ่านมา
สำนักงานกำกับโรงพยาบาลระบุว่า ได้ประกาศใช้มาตรการระดับขั้น “รับมืออย่างจริงจัง” แล้ว เพื่อสกัดกั้นการระบาดของโรคนี้ ขณะที่ ชาน เตือนชาวฮ่องกงว่าอย่าเข้าไปในตลาดสด และรับประทานอาหารที่ทำจากสัตว์ป่าในจีนแผ่นดินใหญ่
เมื่อปี 2003 ได้เกิดโรคซาร์สระบาดซึ่งคร่าชีวิตผู้คน 349 คนบนแผ่นดินใหญ่จีน และอีก 299 คนในฮ่องกง
ตามข้อมูลของ WHO ในตอนนั้นมีผู้คนทั่วโลกกว่า 8,000 คนติดเชื้อโรคนี้ โดยเชื่อกันว่าต้นตอมาจากมณฑลกวางตุ้ง ทางภาคใต้ของจีน
องค์การอนามัยโลกได้วิพากษ์วิจารณ์จีนในเวลานั้นว่า รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อต่ำกว่าความเป็นจริง ภายหลังที่เกิดการระบาดแล้ว
ภายหลังมีรายงานการเกิดโรครายแรกผ่านไปแล้วหลายเดือน จีนได้สั่งปลดรัฐมนตรีสาธารณสุข จาง เวิ่นคัง ในตอนนั้น สำหรับการรับมือกับวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นมาได้อย่างย่ำแย่
WHO ประกาศว่าจีนปลอดจากโรคซาร์ส ในเดือนพฤษภาคม 2004
