เอเอฟพี – อดีตผู้นำทหารพลัดถิ่นของปากีสถาน เปอร์เวซ มูชาร์ราฟ ไม่ยอมรับคำตัดสินว่าเป็นกบฏและบทลงโทษประหารชีวิตที่เขาได้รับเมื่อต้นสัปดาห์ และกล่าวว่า คำตัดสินดังกล่าวเป็นผลจากความอาฆาตแค้นส่วนตัว
คำตัดสินของศาลพิเศษที่ถูกประกาศเมื่อวันอังคาร (17) นับเป็นครั้งแรกที่อดีตผู้นำกองทัพถูกตัดสินว่าเป็นกบฏและได้รับโทษประหารชีวิตในปากีสถาน ประเทศที่กองทัพมีอำนาจมหาศาลและเคยปกครองประเทศมายาวนานราวครึ่งหนึ่งของประวัติศาสตร์ 72 ปีของประเทศ
“คดีนี้ถูกยกขึ้นมาและดำเนินการเนื่องด้วยความอาฆาตแค้นส่วนตัวของคนบางกลุ่มที่ต่อต้านผม” มูชาร์ราฟ กล่าวในถ้อยแถลงทางวิดีโอที่เผยแพร่โดยผู้ช่วยของเขาเมื่อค่ำวันพุธ (18)
มูชาร์ราฟ ซึ่งมีรายงานว่าอยู่ในดูไบและมีสุขภาพย่ำแย่ ปรากฏตัวบนเตียงโรงพยาบาลในคลิปวิดีโอนี้ ในสภาพที่ดูอ่อนแอและลำบากในการพูด
อย่างไรก็ตาม อดีตนายพลคนนี้ กล่าวว่า เขายังไม่ตัดสินใจเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวต่อไปของเขาหรือทีมกฎหมายเขากำลังวางแผนอุทธรณ์คำตัดสินอยู่หรือไม่
คดีกบฏนี้ ซึ่งเริ่มต้นในปี 2013 และเป็นหนึ่งในอีกหลายๆ คดีที่เกี่ยวข้องกับมูชาร์ราฟ ให้ความสนใจกับการตัดสินใจของเขาในการสั่งระงับใช้รัฐธรรมนูญและบังคับใช้คำสั่งสถานการณ์ฉุกเฉินในปี 2007
มูชาร์ราฟเข้าสู่อำนาจครั้งแรกหลังจากโค่นล้มนายกรัฐมนตรี นาวาซ ชารีฟ ในการรัฐประหารโดยไม่นองเลือดเมื่อปี 1999
นายพลสายกลางผู้ชอบสูบซิการ์และดื่มวิสกี้รายนี้กลายเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ ใน “สงครามต้านก่อการร้าย” หลังเหตุโจมตีวันที่ 11 กันยายนและรอดชีวิตจากการลอบสังหารโดยกลุ่มอัลกออิดะห์มาได้อย่างน้อย 3 ครั้งในระหว่าง 9 ปีของการดำรงตำแหน่ง