เอเอฟพี - ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ในวันพุธ(11ธ.ค.) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ตามเดิม แต่บอกว่าจะเบนสายตาสู่ภาวะเงินเฟ้อระดับต่ำและสถานการณ์เศรษฐกิจโลก
จุดยืนของเหล่านายธนาคารกลางล่าสุดเป็นการส่งสัญญาณว่าพวกเขาจะเฝ้าสังเกตการณ์สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและแรงกดดันด้านราคาอันเซื่อมซึม เปิดทางสำหรับเคลื่อนไหวด้านดอกเบี้ยเพิ่มเติม หลังจากก่อนหน้านี้เคยย้ำคำสัญญาพร้อมปรับเปลี่ยนทิศทางการปรับอัตราดอกเบี้ยถ้าจำเป็น
หลังเสร็จสิ้นการประชุมครั้งสุดท้ายของปี 2019 คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC )ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ลงมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามเดิมที่ระดับ 1.5-1.75% ตามความคาดหมาย หลังจากคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับนี้ มาตั้งแต่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ในรอบปีเมื่อเดือนตุลาคม
มติเมื่อวันพุธ(11ธ.ค.) มีคะแนนออกมาอย่างเป็นเอกฉันท์ ผิดกับการประชุมหลายครั้งที่ผ่านมา ที่มีคณะกรรมการฯอย่างน้อย 1 รายหรือมากกว่านั้น มีความเห็นแย้ง
แม้การตัดสินใจจะเป็นไปตามความคาดหมาย แต่ดูเหมือนว่ามันคงสร้างความไม่พอใจแก่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังเขาโจมตีเฟดหลายต่อหลายครั้งและเรียกร้อง เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 0% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยทรัมป์กล่าวหาว่าเฟดทำให้สหรัฐฯเสียเปรียบศัตรูต่างชาติที่มีอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำ
ก่อนหน้าการประชุม พาวเวลล์และเจ้าหน้าที่เฟดคนอื่นๆส่งสัญญาณอย่างชัดเจนว่าพวกเขาอยากที่จะยืนหยัดในจุดยืนเดิม เนื่องจากต้องการรอดูผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดำเนินการไปแล้วในปีนี้เสียก่อน
ในการแถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุม พาวเวลล์ระบุว่าอัตราเงินเฟ้อระดับต่ำ แม้ตัวเลขคนว่างงานต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ช่วยลดแรงกดดันธนาคารกลางต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
พาวเวลล์ ยืนยันว่าไม่พบเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในเศรษฐกิจสหรัฐฯ "ข่าวดีก็คือ เฟดไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับตลาดแรงงานอีกต่อไป" เขากล่าวพาดพิงถึงอัตราคนว่างงานระดับ 3.5% "ความจำเป็นในการปรับขึ้นดอกเบี้ยลดน้อยลงไป"
อย่างไรก็ตามในถ้อยแถลงทางนโยบายล่าสุด มีการเปลี่ยนแปลงถ้อยคำจากการประชุมครั้งที่ผ่านมา โดยหนนี้ทาง FOMC บอกว่า "พวกเจ้าหน้าที่จะจับตาดูความหมายโดยนัยข้อมูลต่างๆที่กำลังเข้ามา สำหรับแนวโน้มทางเศรษฐกิจ ในนั้นรวมถึงสถานการณ์ต่างๆของโลกและแรงกดดันเงินเฟ้อที่ซึมเซา"
ในถ้อยแถลงเน้นว่ามีการใช้จ่ายภาคครัวเรือนจะแข็งแกร่ง แต่การลงทุนภาคธุรกิตและการส่งออกยังคงอ่อนแอ