เอเอฟพี/รอยเตอร์ - พายุไต้ฝุ่น “คัมมูริ” ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 2 คนในวันอังคาร (3 ธ.ค.) ซึ่งเมื่อรวมกับที่ตายไปเมื่อ 1 วันก่อนก็เป็น 3 คน ขณะที่กระแสลมแรงจัดของมันฉีกกระชากหลังคาของบ้านเรือนจำนวนมาก รวมทั้งบังคับให้ท่าอากาศยานนานาชาติในกรุงมะนิลาต้องปิดทำการ เช่นเดียวกับสถานที่ราชการและโรงเรียนต่างๆ ส่วนการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ต้องปรับเวลากันใหม่หลายรายการ
ทางการได้อพยพผู้คนราว 225,000 คนออกจากพื้นที่อันตราย ตั้งแต่ก่อนหน้าที่ “คัมมูริ” ถาโถมขึ้นฝั่งฟิลิปปินสในตอนดึกวันจันทร์ (2) พวกเจ้าหน้าที่บอกว่าการเตรียมการรับมือล่วงหน้าของพวกเขาช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการสูญเสียชีวิตมากมายไปกว่านี้ ขณะเดียวกัน ทางการยังออกคำเตือนทั้งเรื่องน้ำท่วม, คลื่นพายุยกตัวซัดฝั่งที่อาจจะสูงถึง 3 เมตร, และดินถล่ม
คัมมูริขณะที่มีความเร็วลมสูงสุดถึง 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้สร้างความเสียหายให้บ้านเรือนและโครงสร้างต่างๆ รวมทั้งทำให้ต้นไม้และป้ายสัญญาณต่างๆ โค่นล้ม ขณะที่เคลื่อนตัวผ่านเกาะๆ บริเวณภาคกลางของประเทศ รวมทั้งด้านใต้ของเมืองหลวงมะนิลา ซึ่งเป็นที่พำนักอาศัยของผู้คน 13ล้านคน ตลอดจนนักกีฬาหลายพันคนซึ่งกำลังเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ โดยบ่ายหน้าสู่ทะเลจีนใต้
แม้ในตอนที่ไต้ฝุ่นลูกนี้ออกจากดินแดนตากาล็อกบ่ายหน้ากลับไปในทะเลอีกครั้งหนึ่งนั้น ก็ไม่วายเข้าเล่นงานผืนแผ่นดินขนาดใหญ่อีกผืนหนึ่งเป็นการส่งท้าย ซึ่งก็คือเกาะมินโดโร บริเวณตอนกลางของฟิลิปปินส์ โดยตำรวจรายงานว่า ที่นั่นมีชายผู้หนึ่งเสียชีวิตเนื่องจากถูกต้นไม้ที่หักโค่นลงมาหล่นทับ ส่วนชายผู้คนหนึ่งตายเพราะเจอไม้ท่อนหนึ่งพุ่งใส่
ก่อนหน้าที่ “คัมมูริ” จะเคลื่อนเข้าแดนตากาล็อก ก็มีชายอายุ 33 ปีผู้หนึ่งเสียชีวิต เนื่องจากถูกไฟฟ้าดูดเมื่อวันจันทร์ (2) ขณะพยายามซ่อมหลังคาให้สามารถรับแรงลมพายุ ทั้งนี้มีรายงานว่าเมื่อเข้าสู่คืนวันอังคาร (3) ความเร็วลมของมันได้อ่อนตัวลงมาอยู่ในระดับสูงสุด 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ทางการผู้รับผิดชอบฝ่ายต่างๆ กำลังอยู่ระหว่างการประเมินผลกระทบจากไต้ฝุ่นลูกนี้ แต่ที่แน่ๆ คือมีสนามบินท้องถิ่นเล็กๆ แห่งหนึ่งในเมืองเลกัสปีซิตี้ ได้รับความเสียหายหนัก ขณะที่เสาไฟฟ้าจำนวนมากล้มลงมา และบ้านเรือนจำนวนมากก็ได้รับความเสียหาย
“ต้นไม้จำนวนมากล้ม … แล้วก็มีแผ่นมุงหลังคาจำนวนมากปลิวว่อนระหว่างที่พายุเข้าด้วย” จูนี คัสติลโล เจ้าหน้าที่ภัยพิบัติในพื้นที่แห่งหนึ่งที่ถูกถล่มตั้งแต่แรกๆ เล่า
เนื่องจากความรุนแรงของลมพายุ ท่าอากาศยานานาชาตินินอย อากีโน ของกรุงมะนิลา จึง “ปิดทำการ” ผู้จัดการใหญ่ เอด มอนเรียล บอกกับสำนักข่าวเอเอฟพี
ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าเที่ยวบินต่างๆ จะสามารถกลับคืนสู่ภาวะปกติได้เมื่อใด แต่พวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบให้เวลาประมาณการเอาไว้ที่ 23.00 น. วันอังคาร (ตรงกับ 22.00 น.เวลาเมืองไทย) และย้ำว่าพวกเขาจะตัดสินใจเรื่องนี้โดยพิจารณาจากสภาพอากาศ
รวมแล้วมีเที่ยวบินที่ถูกยกเลิกไปเกือบๆ 500 เที่ยวบิน และพวกเจ้าหน้าที่เตือนว่าผู้โดยสารอย่าได้เดินทางมาที่สนามบิน
ณ อาคารผู้โดยสารแห่งหนึ่งซึ่งเอเอฟพีได้ไปเยือน พบว่าแทนที่จะมีผู้คนคับคั่งคึกคักในช่วงที่เที่ยวบินขาออกจำนวนมากออกเดินทางตอนเช้า กลับมีแต่เจ้าหน้าที่หยิบมือหนึ่งและผู้โดยสารไม่มากนักที่ตกค้างอยู่
ฟิลิปปินส์อยู่ระหว่างเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ตั้งแต่วันเสาร์ (30 ก.ย.) ไปจนถึงวันที่ 11 ธันวาคม ทั้งในกรุงมะนิลาและนครอื่นๆ รอบๆ และไต้ฝุ่นคัมมูริก็บังคับให้ผู้จัดการแข่งขันต้องปรับกำหนดการแข่งขันรายการต่างๆ ในวันอังคาร (3) ถึงราวครึ่งหนึ่ง หลังจากที่ได้ส่งผลกระทบกระเทือนมาตั้งแต่ก่อนหน้านั้นแล้ว อย่างไรก็ดี ทางผู้จัดยืนยันว่ายังคงสามารถให้การแข่งขันสิ้นสุดลงได้ตามกำหนด
ฟิลิปปินส์นั้นเป็นประเทศที่เผชิญกับไต้ฝุ่นและพายุอื่นๆ เฉลี่ยแล้วปีละ 20 ลูก โดยสำหรับปีนี้ คัมมูริคือพายุลูกที่ 20