รอยเตอร์ - กองกำลังด้านความมั่นคงยิงผู้ประท้วงเสียชีวิตอย่างน้อย 28 รายในวันพฤหัสบดี(28พ.ย.) หลังพวกผู้ชุมนุมบุกจู่โจมและเผาสถานกงสุลอิหร่านแห่งหนึ่งเมื่อคืนวันพุธ(27พ.ย.) เหตุการณ์ที่อาจเป็นจุดเปลี่ยนในความเคลื่อนไหวลุกฮือต่อต้านรัฐบาลที่พวกเขาอ้างว่าทำตัวเป็นทาสบุญคุณเตหะราน
แหล่งข่าวด้านการแพทย์เปิดเผยว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 24 คน ในเหตุทหารเปิดฉากยิงเข้าใส่พวกผู้ชุมนุมที่ปิดกั้นสะพานแห่งหนึ่งในเมืองนาสซิริยาห์ ทางภาคใต้ของประเทศ ก่อนรุ่งสางในวันพฤหัสบดี(28พ.ย.) นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายสิบคน
ขณะเดียวกันในกรุงแบกแดด มีผู้เสียชีวิต 4 ราย หลังกองกำลังด้านความมั่นคงใช้กระสุนยิงและกระสุนยางเข้าสลายการชุมนุมของผู้ประท้วงใกล้สะพานแห่งหนึ่งที่ทอดข้ามแม่น้ำไทกริส
เหตุการณ์ทั้งสองทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในวันที่นองเลือดที่สุด นับตั้งแต่การลุุกฮือเริ่มขึ้นในช่วงต้นเดือนตุลาคม และจากนั้นการประท้วงต่อต้านคอรัปชันได้ลุกลามบานปลายเข้าสู่การก่อจลาจลต่อต้านทางการโดยผู้ชุมนุมคนหนุ่มสาว ด้วยพวกเขากล่าวหาว่ารัฐบาลเป็นหุ่นเชิดของเตหะราน
ในนาจาฟ สถานกงสุลของอิหร่านกลายเป็นซากดำเป็นตอตะโก หลังจากถูกบุกจู่โจมเมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะที่ผู้ประท้วงหนุ่มสาวกล่าวหาว่านักการเมืองทุจริต เป็นข้าทาสที่ต้องตอบสนองบุญคุณมหาอำนาจต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอิหร่าน และยังกล่าวหารัฐบาลล้มเหลวในการฟื้นฟูประเทศทั้งที่บ้านเมืองค่อนข้างสงบนับจากที่กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) แตกพ่ายไปในปี 2017
จนถึงตอนนี้ เจ้าหน้าที่ยังตอบโต้สถานการณ์ความไม่สงบด้วยมาตรการแข็งกร้าว ทั้งยิงผู้ประท้วงด้วยกระสุนจริง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน รวมถึงมีการใช้แก๊งน้ำตา พร้อมกับปฏิเสธข้อเสนอปฏิรูปของผู้ชุมนุม โดยระบุว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระและเป็นคำพูดเพียงให้ดูดีเท่านั้น
เมื่อวันพฤหัสบดี(28พ.ย.) นายกรัฐมนตรีอเดล อับดุล มาห์ดิ ได้ประชุมร่วมกับบรรดานักการเมืองระดับอาวุโส โดยในนั้นมีผู้บัญชาการของกองกำลังคุดส์ ซึ่งเป็นหน่วยรบพิเศษในต่างประเทศของกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน เข้าร่วมด้วย พร้อมกับย้ำจุดยืนปฏิเสธเรียกร้องของผู้ชุมนุมที่ต้องการให้เขาลาออกจากตำแหน่ง
ในถ้อยแถลงที่บ่งชี้ว่าอาจมีสถานการณ์ความรุนแรงตามมาอีก ผู้บัญชาการของกองกำลังระดมประชาชน (Popular Mobilization Forces หรือ PMF) กลุ่มกำลังรบกึ่งทหาร ซึ่งมีความใกล้ชิดกับอิหร่าน บ่งชี้ว่าเหตุความไม่สงบเมื่อคืนที่ผ่านมา ในเมืองนาจาฟ เป็นภัยคุกคามต่อผู้นำนิกายชีอะห์ภายในเมือง
อาบู มาห์ดิ อัล-มูฮันดิส ผู้บัญชาการ PMFระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ ว่านักรบกึ่งทหารจะใช้กำลังอย่างเต็มรูปแบบกับใครก็ตามที่เป็นภัยคุกคามต่อ อยาโตลเลาะห์ อาลี อัล-ซิสตานี ผู้นำศาสนาสูงสุดของนิกายชีอะห์ในอิรัก "เราจะตัดมือใครก็ตามที่เข้าใกล้ อัล-ซิสตานี"
ฟานาร์ ฮัดดัด นักวิจัยระดับอาวุโสสถาบันตะวันออกกลางของมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ให้ความเห็นว่ารัฐบาลและพันธมิตรกองกำลังกึ่งทหารของพวกเขาอาจใช้เหตุการณ์ที่สถานกงสุลอิหร่านเป็นข้ออ้างความชอบธรรมในการตอบโต้อย่างหนักหน่วง