เอเอฟพี – กองทัพอิรักส่งผู้บัญชาการทหารไปฟื้นความสงบเรียบร้อยในหลายจังหวัดทางใต้ หลังผู้ประท้วงบุกเผาสถานกงสุลอิหร่านเมื่อวันพุธ (27 พ.ย.) เนื่องจากไม่พอใจที่รัฐบาลทำตัวเป็นทาสบุญคุณเตหะราน ซ้ำล้มเหลวในการฟื้นฟูประเทศและปฏิรูปการเมือง
ศูนย์บัญชาการกองทัพอิรักแถลงในวันพฤหัสบดี (28 พ.ย.) ว่าได้จัดตั้งหน่วยฉุกเฉินภายใต้การกำกับดูแลของผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อฟื้นความสงบเรียบร้อยโดยความช่วยเหลือของกองกำลังความมั่นคงและกองทัพ
ในวันเดียวกัน แหล่งข่าวทางการแพทย์และความมั่นคงเผยว่า มีผู้ประท้วงอย่างน้อย 8 คนถูกยิงเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บอีกราว 50 คนจากการปะทะกับกองกำลังความมั่นคงในเมืองนาซิริยาห์ทางใต้ของประเทศ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่พยายามสลายกลุ่มผู้ประท้วงที่กีดขวางสะพานสองแห่ง
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากผู้ประท้วงบุกเผาสถานกงสุลอิหร่านในเมืองนาจาฟ เนื่องจากไม่พอใจที่เตหะรานให้การสนับสนุนรัฐบาลในแบกแดด
ช่วงสองเดือนที่ผ่านมา เกิดความรุนแรงบนท้องถนนในแบกแดดและเมืองที่ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามนิกายชีอะต์ทางใต้ของประเทศ ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 350 คน และบาดเจ็บอีกราว 150,000 คน
เจ้าหน้าที่อพยพออกจากสถานกงสุลก่อนที่ผู้ประท้วงจะบุกเข้าไปไม่นาน และเหตุการณ์นี้ทำให้มีการประกาศเคอร์ฟิวในเมืองนาจาฟ
การประท้วงที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมในกรุงแบกแดดและลุกลามไปยังหลายเมืองทางใต้ถือเป็นความท้าทายที่ซับซ้อนที่สุดสำหรับชนชั้นปกครองที่ยึดกุมโดยฝ่ายชีอะต์และควบคุมสถาบันและเครือข่ายสนับสนุนต่างๆ ของรัฐมาตั้งแต่ปี 2003 ที่อเมริกาบุกเข้าไปโค่นล้มผู้นำเผด็จการ ซัดดัม ฮุสเซน
ผู้ประท้วงหนุ่มสาวที่ส่วนใหญ่เป็นชาวชีอะต์โจมตีว่า นักการเมืองทุจริต เป็นข้าทาสที่ต้องตอบสนองบุญคุณมหาอำนาจต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอิหร่าน และยังกล่าวหาบุคคลเหล่านั้นล้มเหลวในการฟื้นฟูประเทศทั้งที่บ้านเมืองค่อนข้างสงบนับจากที่กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) แตกพ่ายไปในปี 2017
ผู้ประท้วงปิดถนนหลายแห่งทางใต้และจุดไฟเผายางรถยนต์ และยังมีการปะทะกับตำรวจในแบกแดดช่วงเช้าวันพุธ โดยเป้าหมายของผู้ประท้วงคือ ใช้การหยุดชะงักทางธุรกิจโค่นล้มรัฐบาลและถอนรากถอนโคนการทุจริต
เมื่อวันพุธกองกำลังความมั่นคงยิงประชาชนเสียชีวิต 2 คนในเคอร์บารา ใกล้นาจาฟ และอีก 2 คนในแบกแดด ขณะที่คนที่ 5 ถูกยิงตายในเมืองบาสรา เมืองหลวงอุตสาหกรรมน้ำมัน
ทางการเตือนว่า กลุ่มติดอาวุธอาจฉวยโอกาสจากความไม่สงบที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากการประท้วงลุกลามไปทางเหนือของประเทศที่นักรบไอเอสซุ่มก่อความไม่สงบอยู่
ในวันพฤหัสบดี กลุ่มไอเอสอ้างความรับผิดชอบเหตุระเบิดสามครั้งในแบกแดดเมื่อคืนวันอังคารที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน โดยไม่ได้แสดงหลักฐานยืนยันใดๆ
ทั้งนี้ มาตรการปฏิรูปของรัฐบาลทำให้มีการจ้างงานบัณฑิตจบใหม่เพียงกลุ่มเล็กๆ การสนับสนุนค่าครองชีพคนจน ขณะที่คำสัญญาปฏิรูปการเลือกตั้งยังอยู่ในขั้นเริ่มต้นหารือเท่านั้น แถมบรรดานักการเมืองยังให้การสนับสนุนกองทัพเพื่อพยายามยึดกุมอำนาจต่อไป
นักศึกษาแพทย์คนหนึ่งวิจารณ์ว่า ชาวอิรักได้ยินแค่คำสัญญาลมๆ แล้งๆ และถูกปล้นมานานถึง 16 ปี ขณะที่ในเดือนนี้ผู้ประท้วงได้ปิดกั้นเส้นทางเข้าสู่ท่าเรือสินค้าโภคภัณฑ์หลักใกล้บาสราและพยายามล้อมธนาคารกลางในแบกแดด ซึ่งเห็นได้ชัดว่า มีเป้าหมายเพื่อทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงักเพื่อโค่นล้มรัฐบาล
เมื่อคืนวันอังคาร (26 พ.ย.) นายกรัฐมนตรีมาห์ดีแสดงความกังวลต่อเหตุรุนแรงและความสูญเสียทางการเงินนับพันล้านดอลลาร์จากการประท้วง แต่โจมตีผู้ที่บุกทำลายทรัพย์สินเป็นหลัก และว่า รัฐบาลกำลังพยายามหาข้อบกพร่องของกองกำลังความมั่นคงเพื่อพยายามยุติการประท้วง