เอเอฟพี - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯในวันศุกร์(22พ.ย.) อ้างว่าเขาเป็นคนปกป้องฮ่องกงจากการถูกทำลายล้าง ด้วยการโน้มน้าว สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ยับยั้งส่งทหารเข้าปราบปรามพวกผู้ประท้วงฝักใฝ่ประชาธิปไตย ซึ่งจะถูกบดขยี้กวาดล้างจนสิ้นภายในเวลาแค่ 14 นาที
"ถ้าไม่ใช่เพราะผม ฮ่องกงคงถูกทำลายล้างภายใน 14 นาที" ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์ในตอนเช้าวันศุกร์(22พ.ย.)
ความเห็นของทรัมป์มีขึ้นในขณะที่เขากำลังครุ่นคิดว่าจะลงนามในร่างกฎหมายสนับสนุนพวกนักเคลื่อนไหวฝักใฝ่ประชาธิปไตยในฮ่องกงหรือไม่ หลังมันผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรส หรือใช้สิทธิ์วีโต้ ยอมจำนนต่อคำขู่แก้แค้นของจีน
เมื่อถูกถามว่าเขาจะวีโต้ร่างกฎหมายดังกล่าวหรือไม่ หลังจากมันผ่านความเห็นชอบจากทั้ง 2 สภาด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ ทรัมป์ ตอบคำถามด้วยคำพูดที่กำกวม
"ผมขอบอกกับคุณว่าเราจำเป็นต้องยืนหยัดกับฮ่องกง แต่ผมก็ยืนเคียงข้างประธานาธิบดีสีเช่นกัน เขาเป็นเพื่อนผม เขาเป็นชายผู้น่าทึ่ง" ทรัมป์กล่าว "ผมอยากเห็นพวกเขามีทางออก เราต้องการให้พวกเขามีทางออก" เขากล่าว
ทรัมป์โอ้อวดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับสี เป็นกำแพงที่ขัดขวางไม่ไห้จีนเคลื่อนไหวเล่นงานขบวนการฝักใฝ่ประชาธิปไตยในฮ่องกง ที่สั่นคลอนเกาะฮ่องกงมานานกว่า 6 เดือน ในการประท้วงที่เลี้ยวเข้าสู่ความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
ประธานาธิบดีสหรัฐฯบอกต่ออีกว่า "ทหารนับล้านที่ยืนรออยู่ด้านนอกฮ่องกง ไม่เข้าไปก็เพราะผมขอเขาไว้ ผมบอกกับเขาว่า อย่าทำแบบนั้นเลย คุณจะทำผิดพลาดอย่างมหันต์ มันจะส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อข้อตกลงการค้า"
ผู้นำอเมริกายอมรับว่าความตึงเครียดในอดีตอาณานิคมของอังกฤษ ซึ่งส่งมอบคืนสู่อ้อมอกของจีนในปี 1997 ก่อความซับซ้อนแก่ความพยายามบรรลุข้อตกลงการค้ากับปักกิ่ง
ทั้งนี้สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับอเมริกาเป็นบ่อเกิดแห่งความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ในขณะวอชิงตันกำลังมุ่งหน้าสู่ศึกเลือกตั้งในปีหน้า ซึ่งมันอาจบั่นทอนความหวังได้รับเลือกกลับมาดำรงตำแหน่งอีกสมัยของทรัมป์