เอเจนซีส์ - ผู้ประท้วงที่มีทั้งระเบิดขวดและอาวุธอื่นๆ ถูกปิดล้อมไม่ให้หนีออกจากโพลียู ขณะที่สำนักงานตำรวจแถลงว่า อาจไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการใช้กำลัง ซึ่งรวมถึงกระสุนจริง ถ้าผู้ก่อจลาจลยังคงใช้อาวุธร้ายแรงโจมตีตำรวจ ด้านกระทรวงต่างประเทศจีนประกาศชัด ไม่ว่าใครไม่ควรประเมินเจตนารมณ์ในการปกป้องอธิปไตยของจีนต่ำเกินไป และโฆษกกระทรวงกลาโหมแดนมังกรสำทับการยุติความรุนแรงและฟื้นความสงบเรียบร้อยในฮ่องกงเป็นภารกิจเร่งด่วนที่สุดของกองทัพจีน
ผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยหลายสิบคนที่ไม่มีหน้ากากกันแก๊สพิษและสวมชุดปกติ พยายามหลบแก๊ซน้ำตาเพื่อหนีออกจากมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิค (โพลียู) หลังการปะทะดุเดือดตลอดคืนวันอาทิตย์ (17 พ.ย.) แต่ก็ต้องล่าถอยกลับเข้าไปในมหาวิทยาลัย หลังจากพบว่าผู้ประท้วงชุดแรกๆ หลายสิบคนที่หนีออกมาถูกตำรวจจับกุม บางคนถูกกดลงกับพื้นและตีด้วยกระบอง และบางคนถูกเตะต่อย
ฮุย ฉี-ฟุง สมาชิกรัฐสภาฝ่ายเรียกร้องประชาธิปไตย ให้สัมภาษณ์ในวันจันทร์ (18 พ.ย.) ว่าตำรวจอาจยังไม่บุกเข้าไปในโพลียู แต่ดูเหมือนพยายามจับคนที่หนีออกมา และอาจต้องการจะจับกุมผู้ประท้วงทั้งหมดในมหาวิทยาลัยดังกล่าว ส่วนสมาชิกสภาและผู้บริหารโพลียูพยายามติดต่อกับตำรวจแต่ไม่ได้ผล
ทางด้านตำรวจฮ่องกงแถลงว่า ที่ผ่านมาตำรวจประจำอยู่รอบโพลียูมานานหนึ่งสัปดาห์ และพยายามขอร้องให้ผู้ก่อจลาจลสลายตัวออกไปแต่ไร้ผล หนำซ้ำคนเหล่านั้นยังก่อความรุนแรงมากขึ้น
แถลงการณ์สำทับว่า มีสารเคมีอันตรายถูกขโมยไปจากห้องแล็บของโพลียู และเตือนว่า มหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้กลายเป็นถังดินปืนที่อันตรายเกินกว่าจะสามารถประเมินได้
โฆษกสำนักงานตำรวจฮ่องกงเสริมว่า หากผู้ก่อจลาจลไม่ฟังคำเตือนและยังคงใช้ระเบิดขวด ธนู รถยนต์ หรืออาวุธสังหารอื่นๆ โจมตีตำรวจ ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการใช้กำลังขั้นต่ำที่สุดเท่าที่จำเป็น ซึ่งรวมถึงการใช้กระสุนจริงเพื่อตอบโต้การโจมตีเหล่านั้น
ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตำรวจจับกุมผู้ประท้วงได้ถึง 154 คน อายุระหว่าง 13-54 ปี ขณะที่หน่วยงานบริหารจัดการโรงพยาบาลรัฐเผยว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 38 คนช่วงคืนวันอาทิตย์
แดน วัย 19 ปีที่ยังอยู่ในโพลียู น้ำตาไหลพรากขณะเล่าว่า ผู้ประท้วงถูกล้อมอยู่นานมาก และต้องการความช่วยเหลือจากคนฮ่องกงทั้งหมดและอาจรวมถึงนานาชาติ เขาทิ้งท้ายว่า คนข้างในไม่รู้จะทนกันได้อีกนานแค่ไหน นอกจากนี้ยังมีการปะทะในย่านธุรกิจบนถนนนาธานที่นักเคลื่อนไหวปิดถนนและบีบให้ห้างร้านต่างๆ ต้องปิดทำการ
ตำรวจเผยว่า มีการยิงกระสุนจริง 3 นัดตอนที่ “ผู้ก่อจลาจล” โจมตีตำรวจ 2 นายที่กำลังพยายามจับกุมผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและหญิงคนดังกล่าวอาศัยช่วงชุลมุนหนีรอดไปได้ ทั้งนี้ ผู้ก่อจลาจลมีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปีตามกฏหมาย
วิกฤตการเมืองครั้งร้ายแรงที่สุดนับจากที่อังกฤษส่งมอบฮ่องกงคืนให้จีนภายใต้หลักการหนึ่งประเทศ-สองระบบในปี 1997 ครั้งนี้ เกิดขึ้นจากความโกรธแค้นที่ปักกิ่งเข้าแทรกแซงและลิดรอนเสรีภาพของคนฮ่องกงมากขึ้น ขณะที่จีนปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และตำรวจฮ่องกงยืนกรานว่า ไม่ได้ใช้ความรุนแรง แต่พยายามอดกลั้นมากที่สุดระหว่างจัดการกับเหตุการณ์ความไม่สงบ
ในวันจันทร์ เกิง ฉวง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน ประกาศชัดเจนว่า ไม่ว่าใครไม่ควรประเมินเจตนารมณ์ในการปกป้องอธิปไตยของจีนต่ำเกินไป
เกิงสำทับว่า ถ้ามองข้อเท็จจริงโดยปราศจากอคติ จะเห็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในฮ่องกงไม่ใช่แค่การประท้วง แต่เป็นการก่อความรุนแรงของกลุ่มอาชญากรต่อพลเรือน
ขณะเดียวกัน ช่วงเช้าวันอาทิตย์ปรากฏภาพทหารจีนที่ประจำอยู่ใกล้โพลียูกำลังส่องกล้องติดตามสถานการณ์ในมหาวิทยาลัยดังกล่าว และทหารบางนายสวมชุดปราบจลาจล
นอกจากนั้นเมื่อวันเสาร์ (16 พ.ย.) ทหารจีนในชุดเสื้อยืด-กางเกงขาสั้นยังออกจากที่ตั้งเพื่อช่วยเก็บกวาดเศษซากขยะจากการประท้วงก่อความรุนแรง
ทั้งนี้ นับจากปี 1997 ทหารจีนปรากฏตัวบนท้องถนนฮ่องกงเพียงครั้งเดียวเมื่อปีที่แล้วเพื่อช่วยเคลียร์ซากปรักหักพังจากพายุไต้ฝุ่น
ในวันจันทร์ อู๋ เฉียน โฆษกกระทรวงกลาโหมจีน ปกป้องปฏิบัติการเก็บกวาดของทหารจีน พร้อมย้ำคำเตือนของปักกิ่งว่า การยุติความรุนแรงและฟื้นความสงบเรียบร้อยเป็นภารกิจเร่งด่วนที่สุดของกองทัพจีนในฮ่องกง
วิกฤตการเมืองฮ่องกงถือเป็นความท้าทายใหญ่หลวงที่สุดสำหรับสี จิ้นผิง นับจากเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีจีนในปี 2012 ทั้งนี้ ปักกิ่งยืนยันว่า ไม่ได้แทรกแซงกิจการฮ่องกง และกล่าวหาชาติตะวันตกยุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายบนเกาะศูนย์กลางการเงินโลกแห่งนี้
เมื่อเดือนที่แล้ว รัฐบาลฮ่องกงบังคับใช้กฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉิน ห้ามผู้ประท้วงสวมหน้ากากปิดบังใบหน้า แต่ในวันจันทร์ศาลสูงวินิจฉัยว่า คำสั่งดังกล่าวละเมิดรัฐธรรมนูญ และตำรวจแถลงว่าจะระงับการดำเนินคดีที่เกี่ยวเนื่องกับคำสั่งนี้ทั้งหมด