รอยเตอร์ – กองกำลังรัฐบาลยูเครนและกบฏที่มีรัสเซียหนุนหลังเริ่มการถอนกำลังออกจากหมู่บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่พิพาทดอนบัสส์วันนี้ (9) หนึ่งในชุดมาตรการที่อาจเปิดทางให้กับการประชุมซัมมิทระหว่างยูเครน รัสเซีย ฝรั่งเศส และเยอรมนี
การสู้รบระหว่างกองกำลังยูเครนและนักรบกบฏในภาคตะวันออกส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 13,000 คนนับตั้งแต่ปี 2014 โดยสองฝ่ายต่างกล่าวหาอีกฝ่ายว่าละเมิดข้อตกลงหยุดยิงที่ได้รับการบรรลุในกรุงมินสก์ของเบลารุสในปี 2015
ความสัมพันธ์ระหว่างยูเครนและรัสเซียพังทลายภายหลังการควบรวมคาบสมุทรไครเมียของมอสโกในปี 2014 นำมาซึ่งการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกีย์ ของยูเครนชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายในเดือนเมษายนด้วยคำสัญญาว่าจะยุติความขัดแย้งนี้ และเคียฟระบุว่า การที่พวกเขาถอนทหารออกจากหมู่บ้านเปตริฟสเกหมายความว่า พวกเขาได้ทำทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับการจัดประชุมซัมมิทสันติภาพแล้ว มอสโกเคยกล่าวโทษเคียฟว่าทำให้การประชุมซัมมิท 4 ฝ่ายนี้เกิดขึ้นล่าช้า
“ผมหวังว่าเราจะไม่เห็นความพยายามใดๆ ของเคียฟที่จะขัดขวางการบังคับใช้ข้อตกลงว่าด้วยการถอนกองกำลังอีก” บอริส กริซลอฟ ผู้แทนรัสเซียประจำคณะทำงานด้านความขัดแย้งนี้ กล่าว
“ผมหวังว่ากระบวนการถอนกำลังในเปตริฟสเกจะจะเสร็จสมบูรณ์ในอนาคตอันใกล้” เขากล่าว สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ รายงาน
เซเลนสกีทำการแลกเปลี่ยนนักโทษกับรัสเซียในเดือนกันยายน แต่แผนของเขาที่ให้สถานะพิเศษกับภูมิภาคดอนบัสส์ในฐานะส่วนหนึ่งของความพยายามสร้างสันติภาพก่อให้เกิดการประท้วงขึ้นบางจุด เซเลนสกี กล่าวว่า เขาจะไม่มีวันทรยศยูเครน
ยูเครน ระบุว่า หลังจากการควบรวมไครเมีย รัสเซียปลุกปั่นการลุกฮือแบ่งแยกดินแดนทั่วชายแดนทางตะวันออกของยูเครนที่รุนแรงจนกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ ข้อกล่าวหาที่มอสโกปฏิเสธ
สาธารณรัฐประชาชนสองแห่งที่ยังไม่ได้รับการรับรองจากทั้งเคียฟหรือมอสโกก่อตั้งขึ้นในพื้นที่อุตสาหกรรมโดเนทสก์และลูฮันสก์ทางภาคตะวันออกของยูเครน ที่เรียกกันว่าดอนบัสส์