เอเอฟพี – ทางการบังกลาเทศอพยพประชาชนราว 100,000 คนออกจากหมู่บ้านชายทะเลและหมู่เกาะต่างๆ ก่อนที่พายุไซโคลนบุลบุล (Bulbul) จะพัดขึ้นฝั่งในช่วงค่ำวันนี้ (9 พ.ย.)
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาบังกลาเทศแจ้งให้หน่วยงานท้องถิ่นและท่าเรือ 2 แห่งยกระดับการเตือนภัยสู่ขั้นสูงสุด โดยคาดว่าไซโคลนลูกนี้จะทำให้เกิดคลื่นพายุซัดฝั่งสูงถึง 2 เมตร
ไซโคลนบุลบุลซึ่งมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางราว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงคาดว่าจะพัดขึ้นฝั่งใกล้กับซุนดาร์บัน (the Sundarbans) ซึ่งเป็นป่าชายเลนขนาดใหญ่ที่สุดของโลก กินพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่างบังกลาเทศกับภาคตะวันออกของอินเดีย และเป็นถิ่นอาศัยของเสือโคร่งเบงกอลซึ่งเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์
ชาห์ กามาล เลขาธิการสำนักงานจัดการภัยพิบัติ ระบุว่า พายุจะซัดขึ้นฝั่งบังกลาเทศในเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันนี้ (9) และเจ้าหน้าที่มีแผนอพยพประชาชน 1.5 ล้านคนออกจากพื้นที่เสี่ยงให้เสร็จสิ้นก่อนเวลาดังกล่าว
อิทธิพลของพายุลูกนี้ยังทำให้บังกลาเทศต้องเลื่อนการสอบวัดความรู้ระดับชาติ, ยกเลิกวันหยุดสำหรับเจ้าหน้าที่ซึ่งประจำการอยู่ตามเมืองชายฝั่ง และประกาศยกเลิกงานเทศกาล ‘ราช เมลา’ ซึ่งจัดขึ้นในแถบซุนดาร์บัน
กิจกรรมขนส่งสินค้าที่ท่าเรือเมืองมองกลา (Mongla) และจิตตะกองก็ถูกสั่งระงับชั่วคราวเช่นกัน
ทางการได้ส่งอาสาสมัครราว 55,000 คนลงพื้นที่เพื่อเตือนประชาชนในเขตเสี่ยงภัยให้รีบอพยพแต่เนิ่นๆ
พื้นที่ชายฝั่งลุ่มต่ำของบังกลาเทศมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 30 ล้านคน และมักเผชิญความเสียหายที่รุนแรงจากพายุไซโคลนอยู่เป็นประจำทุกปี
ในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา ชาวบังกลาเทศหลายแสนคนต้องสังเวยชีวิตให้แก่พายุไซโคลนซึ่งเกิดถี่ขึ้นและมีอานุภาพรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ถึงกระนั้นรัฐบาลบังกลาเทศก็ยกระดับการเตรียมความพร้อมรับมือพายุให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น จนสามารถลดจำนวนผู้เสียชีวิตลงได้มาก นับตั้งแต่พายุไซโคลนซิดร์ (Sidr) ได้คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 3,000 คนในปี 2007
พายุไซโคลนฟานี (Fani) ซึ่งซัดถล่มบังกลาเทศเมื่อเดือน พ.ค. จัดเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดที่ประเทศแห่งนี้ต้องเผชิญในรอบ 5 ปี ทว่ามีผู้เสียชีวิตไปเพียงสิบกว่าคนเท่านั้น