รอยเตอร์/มาร์เกตวอตช์ - วอลล์สตรีทปิดทรงตัวในวันพุธ (6 พ.ย.) หลังมีข่าวว่าข้อตกลงการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ อาจล่าช้าไปจนถึงเดือนธันวาคม กระพือความกังวลสงครามการค้าอาจลากยาวต่อไป ปัจจัยนี้ฉุดราคาน้ำมันขยับลง ส่วนทองคำปรับขึ้นแรง
ดาวโจนส์ ลดลง 0.07 จุด (0.00 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 27,492.56 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 2.16 จุด (0.07 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,076.78 จุด แนสแดค ลดลง 24.05 จุด (0.29 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 8,410.63 จุด
เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลสหรัฐฯเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่าการประชุมระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน เพื่อลงนามในข้อตกลงการค้าชั่วคราวที่เฝ้ารอกันมานาน อาจต้องเลื่อนไปจนถึงเดือนธันวาคม โดยณะนี้เจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายกำลังหารือเกี่ยวกับเงื่อนไขต่างๆ ของข้อตกลง รวมทั้งสถานที่สำหรับลงนามข้อตกลง
รายงานของรอยเตอร์ระบุว่า มีการเสนอชื่อหลายประเทศในเอเชียและยุโรป เช่น กรีซ, สวีเดน และ สวิตเซอร์แลนด์ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่บอกว่ารัฐไอโอวา ซึ่ง ปธน.ทรัมป์ เสนอให้เป็นสถานที่ลงนามในข้อตกลงนั้น มีแนวโน้มว่าจะไม่ได้รับการคัดเลือก
ตลาดได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มประกันสุขภาพ โดย ฮูมานา อิงค์ ปิดบวก 3.9% หลังรายงานผลประกอบการรายไตรมาส มีกำไรเกินคาดหมาย จากยอดขายแผนประกันสุขภาพ Medicare Advantage ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล
ส่วน ซีวีเอส เฮลธ์ คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายยารายใหญ่ของสหรัฐฯ เปิดเผยกำไรสูงกว่าคาดในไตรมาส 3 โดยมีกำไร 1.84 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.77 ดอลลาร์/หุ้น นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้พุ่งขึ้น 36.5% สู่ระดับ 6.481 หมื่นล้านดอลลาร์ จากผลดำเนินงานของฝ่ายธุรกิจประกันสุขภาพ “เอ็มน่า เฮลธ์” และฝ่ายธุรกิจบริหารจัดการระบบยา
รายงานข่าวการลงนามในข้อตกลงการค้าจีนกับสหรัฐฯ อาจเลื่อนออกไปจนถึงเดือนธันวาคม ประกอบกับข้อมูลลังปิโตรเลียมสำรองของอเมริกา ฉุดราคาน้ำมันในวันพุธ (6 พ.ย.) ปรับลดพอสมควร
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 88 เซ็นต์ ปิดที่ 56.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 1.22 ดอลลาร์ ปิดที่ 61.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐฯ (อีไอเอ) เผยแพร่รายงานในวันพุธ (6 พ.ย.) ระบุคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 1 พฤศจิกายน เพิ่มขึ้นถึง 7.9 ล้านบาร์เรล ขณะที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมายว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้แล้ว ข้อมูลของอีไอเอยังพบด้วยว่าสต๊อกน้ำมันเบนซินลดลง 2.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ที่ 1.8 ล้านบาร์เรล ขณะที่คลังสำรองน้ำมันกลั่น อันประกอบด้วย ดีเซล และน้ำมันทำความร้อน ลดลง 622,000 บาร์เรล ส่วนพวกนักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าน่าจะลดลงราวๆ 949,000 บาร์เรล
ด้านราคาทองคำในวันพุธ (6 พ.ย.) ปรับขึ้นเล็กน้อย นักลงทุนเข้าถึงครองโลหะมีค่าชนิดนี้เพื่อลดความเสี่ยง หลังพบกิจกรรมการผลิตในสหรัฐฯ อ่อนแอเกินคาดหมาย โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 9.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,493.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์