เอเอฟพี - ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวรุนแรงที่สั่นสะเทือนทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ในตอนเช้าวันอังคาร(29ต.ค.) เพิ่มเป็น 6 ศพและบาดเจ็บหลายสิบคน อาคารหลายแห่งเกิดรอยร้าวในภูมิภาคที่ยังคงโซซัดโซเซจากธรณีพิโรธเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ซึ่งเข่นฆ่าชีวิตผู้คนเช่นกัน
ชาวบ้านพากันไหลบ่าลงสู่ท้องถนนหลังเกิดแผ่นดินไหวระดับ 6.6 สั่นสะเทือนเกาะมินดาเนา ในวันที่โรงเรียนต่างๆและสำนักงานทั้งหลายเปิดทำการ
แรงสั่นสะเทือนกินเวลานานนับนาทีในบางพื้นที่ ก่อความเสียหายแก่บ้านเรือน, อาคารหลายแห่งและห้องเรียนต่างๆในพื้นที่ซึ่งชาวบ้านหลายร้อยคนยังคงไร้ที่พักอาศัย หลังจากเกิดแผ่นดินไหวเมื่อช่วงต้นเดือน ซึ่งคร่าชีวิตไป 5 ศพและบ้านเรือนหลายสิบหลังได้รับความเสียหาย
โฆษกของเมืองเปิดเผยกับเอเอฟพีว่าวัยรุ่นชายคนหนึ่งเสียชีวิตจากการถูกกำแพงถล่มทับ ระหว่างที่เขากำลังหลบหนีออกจากโรงเรียนในเมืองแมกไซไซ นอกจากนี้แล้วยังมีนักเรียนคนอื่นได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกันด้วยความอลหม่านตอนหลบหนีออกจากอาคารเรียนเช่นกัน
เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่าหินและดินถล่มที่เกิดจากแรงเขย่าของแผ่นดินไหวได้คร่าชีวิตคนอื่นๆ 4 ราย ส่วนอีกคนเสียชีวิตจากการถูกกำแพงล้มทับ
ขณะเดียวกันมีรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 50 คนจากการถูกเศษซากต่างๆหล่นลงมาใส่ ในนี้นรวมถึงเด็กเรียนและครู 7 คนที่กำลังหลบหนีออกจากโรงเรียนประถมที่อาคารพังถล่มลงมา
พวกชาวบ้านพากันตื่นกลัวต่อความรุนแรงของแผ่นดินไหวครั้งนี้ ซึ่งมีศูนย์กลางระดับตื้น ดังนั้นมันจึงมีศักยภาพก่อความเสียหายทำลายล้าง "อาคารไม่ใช่แต่สั่นเท่านั้น แต่มันยังแกว่งโอนเอนไปมา" แพทย์คนหนึ่งของโรงพยาบาลในตูลูนัน เมืองซึ่งตั้งอยู่ห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวราวๆ 25 กิโลเมตรเปิดเผยกับเอเอฟพี "ผมวิงวอนให้พระเจ้าทรงช่วยด้วย" พร้อมเผยว่ามีคนไข้ถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลทันทีทันใด 10 ราย ในนั้นบางคนบาดเจ็บบริเวณศีรษะ"
นายกเทศมนตรีเมืองตูลูนัน เปิดเผยว่าศาลากลางท้องถิ่นได้รับความเสียหายอย่างหนักและเจ้าหน้าที่ได้รับรายงานมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
ทีมกู้ภัยยังคงเดินหน้าทำงานแม้เวลาล่วงเข้าสู่ช่วงกลางคืนวันอังคาร(29ต.ค.) เพื่อประเมินความเสียหายในภูมิภาค บริเวณที่ในบางพื้นที่เกิดไฟฟ้าดับและโทรศัพท์ใช้การไม่ได้ อันเนื่องจากความรุนแรงของแผ่นดินไหว
สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯบอกว่าหลังจากเกิดแผ่นดินไหวระดับ 6.6 ในเบื้องต้น ได้เกิดอาฟเตอร์ช็อกที่มีความรุนแรงน้อยกว่าตามมาอีกหลายระลอก ในนั้นรวมถึงครั้งหนึ่งซึ่งวัดความรุนแรงได้ระดับ 5.8
อาฟเตอร์ช็อกที่ยังคงเกิดขึ้นเป็นระยะๆ ได้ก่อความกังวลแก่ประชาชนโดยทั่วไป โดยพวกชาวบ้านปฏิเสธกลับไปใช้ชีวิตในอาคาร ด้วยเกรงว่าพวกเขาอาจติดอยู่ใต้ซากหักพังหากว่ามันถล่มลงมา ขณะที่โรงเรียนต่างๆทั่วพื้นที่สั่งปิดการเรียนการสอน ในมาตรการป้องกันไว้ก่อน