เอเจนซีส์/เอเอฟพี - เมื่อวานนี้ (4 ส.ค.) ประเทศต่างๆ ในยุโรปต่างได้รับคลื่นความร้อนจากทวีปแอฟริกาเหนือ ส่งผลทำให้มีอุณหภูมิสูงสุดไม่ต่ำกว่า 47 องศาเซลเซียสในโปรตุเกส ส่วนในสเปนมีผู้เสียชีวิต 3 ราย เนเธอร์แลนด์พบว่ายางมะตอยบนถนนไฮเวย์ถึงกับละลาย และคลื่นความร้อนทำให้สุนัขตำรวจในออสเตรียต้องสวมรองเท้าออกลาดตระเวน ส่วนที่ฝรั่งเศส โรงงานไฟฟ้าเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของบริษัท EDF ถูกปิดชั่วคราว
DW สื่อเยอรมนีรายงานวันนี้ (5 ส.ค.) ว่า ประชาชนในหลายประเทศของยุโรปต้องพบกับวิกฤตคลื่นความร้อนครั้งสำคัญในวันเสาร์ (4) โดยเฉพาะที่สเปนและโปรตุเกสซึ่งได้รับผลกระทบจากคลื่นความร้อนที่มาจากทวีปแอฟริกาเหนือมากที่สุด พบว่าในหลายพื้นที่มีอุณหภูมิสูงทำลายสถิติ
สื่อเยอรมนีชี้ว่า พบว่า 8 พื้นที่ในโปรตุเกสมีอุณหภูมิในวันเสาร์ (4) ทำลายสถิติอุณหภูมิของพื้นที่เดิม ซึ่งพบว่ามีบางพื้นที่มีอุณหภูมิสูงถึง 47 องศาเซลเซียส แต่เจ้าหน้าที่ชี้ว่าอาจได้เห็นอุณหภูมิปรับตัวเพิ่มได้อีก 2-3 องศาในวันนี้ (5) และหากว่าเป็นความจริง โปรตุเกสจะทำลายสถิติอุณหภูมิสูงสุดในยุโรปจากที่เคยเกิดขึ้นที่กรุงเอเธนส์ในปี 1977 อยู่ที่ 48 องศาเซลเซียส โดยทั่วทั้งประเทศถูกประกาศเตือนให้อยู่ในความพร้อมโดยสำนักงานป้องกันภัยพลเรือนสเปน ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจำนวนหลายร้อยนายกำลังพยายามดับไฟป่าที่กำลังลุกไหม้อยู่ในภูมิภาคอัลการ์ฟ (Algarve) ในเวลานี้
ส่วนที่สเปนซึ่งเป็นอีกจุดที่ถูกคลื่นความร้อนจากแอฟริกาเหนือมากที่สุดเช่นกัน พบว่ามีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 3 ราย เอเอฟพีรายงานว่าในเมืองท่องเที่ยวคอร์โดบาบา (Cordoba) อุณหภูมิได้ไต่ไปถึง 44 องศาเซลเซียส
และที่แคว้นกาตาลุญญา ทางตะวันออกเฉียงเหนือ เกิดไฟไหม้ขึ้นบริเวณพรมแดนติดฝรั่งเศส ส่งผลทำให้ต้องมีการปิดถนนไฮเวย์ของทั้ง 2 ประเทศเป็นเวลาไม่กี่ชั่วโมง และสามารถกลับมาเปิดได้ใหม่ในช่วงค่ำของวัน โดยทางเจ้าหน้าที่กล่าวว่าสามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว
และไฟไหม้นี้ไม่ใช่เคสเดียวกับไฟป่าที่ซาน วินเซนเต เด อัลคานตารา (San Vicente de Alcantara) ทางตะวันตกเฉียงเหนือบริเวณพรมแดนติดกับโปรตุเกสซึ่งเป็นบริเวณพื้นที่มีลมแรงและอุณหภูมิสูงส่งผลทำให้ไฟป่ามีความรุนแรงมากขึ้น
มีเครื่องบินดับเพลิงถึง 11 ลำและอากาศยานประเภทอื่นคอยสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่อยู่ด้านล่าง ซึ่งเอเอฟพีชี้ว่า จากสาเหตุอุณหภูมิสูงทำให้มีผู้เสียชีวิตจากโรคฮีทสโตรกถึง 3 รายในสเปน
ในขณะที่กรุงเวียนนา ออสเตรีย พบว่าสุนัขตำรวจที่กำลังทำหน้าที่เดินลาดตระเวนในการแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาด ต้องมีการสวมรองเท้าที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ โดยในวันเสาร์ (4) มีอุณภูมิสูงถึง 34 องศาเซลเซียส แต่เป็นเพราะสุนัขตำรวจต้องทำหน้าที่ลาดตระเวนนานหลายชั่วโมงไปตามพื้นที่ถูกแดดเผาเป็นเวลานาน ส่งผลทำให้อุณหภูมิสามารถเพิ่มขึ้นถึง 50 องศาเซลเซียสได้ไม่ยาก รองเท้าจึงเป็นเครื่องป้องกันที่ดี
เอเอฟพีรายงานว่า ยางมะตอยบนพื้นถนนไฮเวย์ในเนเธอร์แลนด์ถูกคลื่นความร้อนจนถึงขั้นละลาย และทำให้เจ้าหน้าที่ต้องทำการปิดการจราจรเป็นบางช่วง
ส่วนที่เมืองซโวลเลอ (Zwolle) ที่อยู่บริเวณภาคกลางของประเทศ ได้มีการตัดกิ่งต้นไม้ที่เป็นที่นิยมร่วม 100 ต้นโดยสถานีโทรทัศน์ดัตช์ NOS ได้อธิบายว่า ความร้อนจะทำให้กิ่งต้นไม้เปราะและหักลงมาทับคนด้านล่างหรือรถที่วิ่งผ่านไปมาได้
คลื่นความร้อนจากทวีปแอฟริกาเหนือยังส่งผลทำให้ต้องมีการสั่งปิดเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ชั่วคราวในฝรั่งเศส
โดยบริษัทพลังานฝรั่งเศส EDF ได้อธิบายว่า มาตรการสั่งปิดเพื่อป้องกันอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นของน้ำในแม่น้ำ ซึ่งทางโรงงานพลังงานนิวเคลียร์ได้ดึงนำมาใช้เพื่อทำการหล่อเย็นแท่งปฏิกรณ์นิวเคลียร์และส่งน้ำกลับคืนสู่ธรรมชาติ
พบว่าอุณหภูมิที่เมือง Beziers ทางใต้ของฝรั่งเศสในวันเสาร์ (4) ถูกวัดได้ราว 41.3 องศาเซลเซียส ซึ่งในช่วงสายของตอนเช้าพบมีการจราจรติดขัดไกลร่วม 705 กม.อ้างอิงจากเจ้าหน้าที่การจราจรฝรั่งเศสในการรายงานของสื่อฝรั่งเศส ladepeche.fr
ส่วนที่อิตาลีพบมีหญิงสูงวัยอายุ 79 ปีเสียชีวิตจากโรคฮีตสโตรกที่แคว้น ลีกือรียา (Liguria) แต่ทว่าในสวีเดนที่ผจญกับไฟป่ามาก่อนหน้า พบว่าในวันเสาร์ (4) เกิดฝนตกขึ้นทำให้มีการบรรเทาสภาพอากาศไปได้