เอเอฟพี/มาร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันดิ่งแรงในวันพุธ (1 ส.ค.) หลังพบคลังปิโตรเลียมสำรองสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเกือบ 4 ล้านบาร์เรล ส่วนวอลล์สตรีทปิดผสมผสาน ท่ามกลางความกังวลต่อสงครามการค้า
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 1.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 67.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 1.82 ดอลลาร์ ปิดที่ 72.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานในวันพุธ (1 ส.ค.) ระบุว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 27 กรกฎาคม เพิ่มขึ้น 3.8 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าจะลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมผสานในวันพุธ(1ส.ค.) แนสแดคได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของแอปเปิ้ล แต่ความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าเป็นปัจจัยฉุดดาวโจนส์
ดาวโจนส์ ลดลง 81.37 จุด (0.32 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 25,333.82 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 2.93 จุด (0.10 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,813.36 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 35.50 จุด (0.46 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,707.29 จุด
วอลล์สตรีทเปิดตลาดในแนวโน้มทางบวก จากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของแอปเปิ้ลและข้อมูลกาจ้างงานภาคเอกชนที่สดใสของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม ตลาดแกว่งตัวลงตามหลังรายงานข่าวที่ระบุว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีแผนจัดเก็บภาษีเพิ่มในอัตรา 25% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนที่อยู่ภายใต้มาตรการลงโทษ
ในขณะเดียวกัน ธนาคารกลางสหรัฐฯ ลงมติตามความคาดหมาย คงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามเดิม แต่ส่งสัญญาณว่ากำลังอยู่ระหว่างพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติม พร้อมบรรยายสถานะการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศว่า “แข็งแกร่ง” บ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นมากขึ้นจากคำประเมินคราวก่อน
หุ้นของแอปเปิลพุ่งทะยาน 5.9% หลังรายงานผลประกอบการรายไตรมาสมีกำไรเพิ่มขึ้นกว่า 30% เหนือกว่าที่ตลาดคาดหมายไว้ แม้ยอดขายไอโฟนน้อยกว่าที่พวกนักวิเคราะห์คาดการณ์
ตัวเลขกำไรที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้แอปเปิลเข้าใกล้ความเป็นจริงที่จะกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าทางการตลาดทะลุ 1 ล้านล้านดอลล่าร์เป็นบริษัทแรกของโลก