xs
xsm
sm
md
lg

In Pics: สื่ออังกฤษรายงาน ทรัมป์เล็งลงชิงปธน.สหรัฐฯต่อรอบ 2 – เรียกควีนเอลิซาเบธ “ผู้หญิงที่น่ามหัศจรรย์”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ – ในการให้สัมภาษณ์ผู้นำสหรัฐฯเผยว่า มีความตั้งใจจะลงรับสมัครชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯเป็นสมัยที่ 2 ในปี 2022 อ้างทุกคนต้องการเขา พร้อมโวไม่มีผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตคนไหนดีพอจะแข่ง ก่อนจะแหวกธรรมเนียมปฎิบัติเปิดเผยคำสนทนากับสมเด็จพระราขินีควีนเอลิซาเบธที่ 2 แห่งราชวงศ์อังกฤษ พบทั้งคู่สนทนาปัญหา BREXIT พร้อมชื่นชมสมเด็จพระราชินีทรงเป็นสตรีที่น่ามหัศจรรย์

เดลีเทเลกราฟ สื่ออังกฤษรายงานวันนี้(15 ก.ค)ว่า ในการให้สัมภาษณ์พิเศษกับนักข่าวอังกฤษชื่อดัง เพียร์ซ มอร์แกน เมื่อวันศุกร์(13) ถึงความสนใจในการลงรับสมัครชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯอีกครั้งในปี 2022 พบว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่อยู่ในอังกฤษเป็นเวลา 2 วัน ก่อนที่จะออกเดินทางในวันนี้(15)เพื่อไปยังกรุงเฮลซิงกิ ฟินแลนด์ สำหรับการเตรียมการซัมมิตกับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูตินที่จะมีขึ้นในวันจันทร์(16) ยอมรับว่า ต้องการที่จะลงชิงต่อเป็นสมัยที่ 2 โดยให้เหตุผลผ่านการรายงานสื่ออังกฤษ เมล ฉบับวันอาทิตย์(15)ว่า

“ผมมีความตั้งใจอย่างเต็มที่เช่นนั้น มันเหมือนกับว่าทุกคนต้องการผมให้ทำเช่นนั้น” ทรัมป์กล่าว

ทั้งนี้ผู้นำสหรัฐฯชี้ว่า เขาไม่เห็นว่าจะมีผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตรายใดที่จะสามารถโค่นเขาลงได้ “ผมไม่เห็นใครเลย ผมรู้จักพวกเขาทุกคน ผมไม่เห็นใครทั้งนั้น”

เดลีเทเลกราฟชี้ว่า ก่อนที่ผู้นำสหรัฐฯจะออกเดินทางไปกรุงเฮลซิงกิ พบว่าเขาได้แหวกธรรมเนียมปฎิบัติเกี่ยวกับราชวงศ์อังกฤษด้วยการออกมาเปิดเผยถึงคำสนทนาที่เกิดขึ้นในช่วงพิธีน้ำชายามบ่ายในวันศุกร์(13) ที่ผู้นำสหรัฐฯและสมเด็จพระบรมราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ได้ใช้เวลาร่วมกันที่พระราชวังวินด์เซอร์โดยการเปิดเผยถึงหัวข้อการสนทนา โดยชี้ว่าได้มีการสนทนาถึงปัญหา BREXIT เกิดขึ้น

“ผมได้กล่าวถึง(ปัญหา BREXIT) ซึ่งพระองค์ท่านกล่าวว่ามันเป็นสิ่งที่มาก และพระองค์ท่านได้ตรัสถูกต้องแล้วว่ามันเป็นปัญหาที่ซับซ้อนมาก ผมคิดว่าไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่าความซับซ้อนนี้จะมากเพียงใด...ทุกคนต่างคิดว่ามันคงจะเป็นสิ่งที่ง่ายดาย แบบว่าเราจะร่วมหรือเราจะไม่อยู่ร่วม หรือคอยดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

สื่อเดลีเทเลกราฟรายงานต่อว่า และเมื่อผู้นำสหรัฐฯถูกถามไปถึงองค์พระประมุขอังกฤษที่อยู่ในวัย 92 พรรษาในปัจจุบัน ทรัมป์ตอบกลับมาว่า “ท่านช่างเป็นสตรีที่น่าทึ่ง ท่านเป็นผู้ที่ฉลาดแหลมคม ที่มีความงาม และเมื่อผมกล่าวถึงความงาม ผมหมายถึงทั้งภายในและภายนอก นี่เป็นสตรีที่งดงาม”

และเมื่อถูกถามว่า คิดว่าองค์สมเด็จพระราชินีมีความรู้สึกที่ชื่นชอบในตัวผู้นำสหรัฐฯบ้างหรือไม่ ทรัมป์ตอบกลับมาว่า “โอ ผมไม่คิดว่าจะสามารถกล่าวแทนพระองค์ท่านได้ แต่ผมขอบอกคุณได้เลยว่าผมชอบพระองค์ท่านมาก ซึ่งตามปกติมันจะช่วยได้มาก แต่ผมชื่นชอบพระองค์ท่านมาก”

“ช่างสง่างาม ช่างงดงาม มันเป็นสิ่งที่พิเศษเอามากๆ” ผู้นำสหรัฐฯแสดงความคิดเห็นในการเข้าเฝ้า และเสริมว่า “ช่างหลักแหลม ช่างฉลาด ช่างงดงาม ซึ่งเมื่อยามอยู่ใกล้ คุณจะเห็นว่าพระองค์ท่านงดงามและพิเศษเอามากๆ”

สื่ออังกฤษชี้ว่า ผู้นำสหรัฐฯและสุภาพสตรีหมายเลข 1 สหรัฐฯ เมลาเนีย มีกำหนดต้องใช้เวลาราว 30 นาทีเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถควีนเอลิซาเบธที่ 2 แต่กลับพบว่า คนทั้งคู่ใช้เวลานานกว่านั้น และพิธีน้ำชายามบ่ายกินเวลาร่วม 20 นาทีเข้าไปแล้ว

และหลังจากการเข้าเฝ้า เพียร์ซ มอร์แกน จากรายการกู๊ดมอร์นิงบริเตนได้ขึ้นไปบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันของทรัมป์จากท่าอากาศยานสแตนสเต็ด (Stansted Airport) เมืองเอ็สเซ็กซ์(Essex) เพื่อทำการสัมภาษณ์ผู้นำสหรัฐฯ เพื่อสอบถามถึงความเห็นเกี่ยวกับสมเด็จพระราชินี BREXIT และประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ คิม จองอึน

โดยมอร์แกนได้กล่าวข้อความที่ผู้นำสหรัฐฯได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับพระประมุขแห่งอังกฤษว่า “สมเด็จพระราชินี..ช่างเป็นผู้ที่น่าทึ่ง เป็นสตรีที่น่ามหัศจรรย์ มีพลังงานเหลือเฟือ...ท่านช่างน่าพิศวง! ถือเป็นเกียร์ติอย่างสูงที่เข้าเฝ้าท่านได้ในที่สุด การมีสมเด็จพระราชินีเช่นนี้ ถือเป็นสิ่งที่วิเศษ”

สื่ออังกฤษชี้ว่า ในช่วงระหว่างการครองราชย์ 66 ปีของควีนเอลิซาเบธที่ 2 เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่สหรัฐฯมีประธานาธิบดีมาแล้วทั้งหมด 13 คน นับตั้งแต่ประธานาธิบดีแฮร์รี เอส. ทรูแมน มาจนถึงประธานาธิบดีทรัมป์ โดยควีนเอลิซาเบธที่ 2 ทรงมีโอกาสพบกับทุกคนยกเว้นประธานาธิบดี ลินดอน บี. จอห์นสัน ที่ได้ออกเดินทางเยือนเอเชียอย่างเป็นทางการเท่านั้นในช่วงสมัยการดำรงตำแหน่ง

และในการให้สัมภาษณ์ ผู้นำสหรัฐฯยังได้เอ่ยไปถึงมารดาที่เป็นชาวสกอต แมรี แอนน์ ทรัมป์(Mary Anne Trump) ซึ่งได้เสียชีวิตไปแล้ว โดยชี้ว่า มารดาเป็นผู้ที่มีความชื่นชมในองค์สมเด็จพระราชินี โดยเขาได้กล่าวกับภรรยาในระหว่างเดินว่า “คุณจะสามารถจินตนาการได้ไหมว่าแม่ของผมจะได้เห็นภาพนี้ วินด์เซอร์ พระราชวังวินด์เซอร์!”

บีบีซี สื่ออังกฤษชี้ว่า ผู้นำสหรัฐฯจะเดินทางต่อไปยังฟินแลนด์ทันทีหลังจากอยู่ในอังกฤษเป็นเวลา 2 วัน โดยจะออกเดินทางจากสนามบินกลาสโกว์ แพรสท์วิค ของสกอตต์แลนด์เพื่อตรงไปยังกรุงเฮลซิงกิ ฟินแลนด์ ซึ่งผู้นำสหรัฐฯมีกำหนดจะร่วมการประชุมซัมมิตกับผู้นำรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน

ซึ่งพบว่าในคืนสุดท้ายของการอาศัยในอังกฤษ ทรัมป์เข้าพักที่สนามกอล์ฟส่วนตัวของตัวเอง ทรัมป์ เทิร์นเบอร์รี(Trump Turnberry) ในขณะที่เอดินบะระ พบมีคนจำนวนมากเดินขบวนต่อต้านการมาเยือนอังกฤษของทรัมป์

โดยในกลุ่มผู้เดินขบวนต่างถือป้ายประกาศในขณะรวมตัวกันในเมืองแมโดวส์(Meadows)ซึ่งเป็นเมืองเอก และที่พลาดไม่ได้คือบอลลูนขนาดยักษ์เบบี้ทรัมป์ 2 ตัวถูกปล่อยลมออกมาที่นี่

ซึ่งนอกจากนี้ พบว่ากลุ่มผู้ประท้วงยังมีการเรียกร้องให้ผู้นำสหรัฐฯยุติการประชุมที่จะมีขึ้นในวันจันทร์(16)ร่วมกับผู้นำรัสเซีย แต่ทว่าโฆษกประจำทำเนียบขาว ซาราห์ ฮักคาบี แซนเดอร์ส ยืนยันว่า การประชุมซัมมิตกับประธานาธิบดีปูตินจะยังคงเป็นไปตามกำหนดที่กรุงเฮลซิงกิ

บีบีซีชี้ว่า ทางตำรวจออกมาให้ตัวเลขผู้ประท้วงร่วมที่เอดินบะระว่ามีจำนวนราว 9,000 คน ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าการประท้วงเกิดขึ้นได้ด้วยดีโดยไม่มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น โดยพบว่ากลุ่มผู้ประท้วงรวมตัวกันที่รัฐสภาสกอตแลนด์ก่อนที่จะเดินไปยังพื้นที่ของเมืองแมโดวส์สำหรับคาร์นิวาลแห่งการขัดขืน

ในขณะที่เทิร์นเบอร์รี พบว่ามีกลุ่มผู้ประท้วงได้ปีนเนินเขาเตี้ยๆใกล้กับสนามกอล์ฟเพื่อทำให้มั่นใจว่าทรัมป์ที่ออกรอบอยู่ด้านในจะเห็นป้ายประท้วงได้ถนัด

ซึ่งในระหว่างการออกรอบกับบุตรชาย เอริค(Eric) กลุ่มผู้ประท้วงตะโกนกล่าวว่า “ไม่เอาทรัมป์ ไม่เอาเคเคเค ไม่เอาเหยียดผิวยูเอสเอ” โดยทรัมป์และสุภาพสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐฯเดินทางมาถึงสกอตแลนด์ด้วยเครื่องบินแอร์ฟอรซ์วันในค่ำวันศุกร์(13) ก่อนที่จะเดินทางด้วยทางบกเข้าไปยังสนามกอล์ฟส่วนตัว “ทรัมป์ เทิร์นเบอร์รี” ซึ่งเป็น 1 ใน 2 สนามกอล์ฟที่เขาเป็นเจ้าของในสกอตแลนด์

พบว่ามีการรักษาความปลอดภัยอย่างหนาแน่นภายใน บีบีซีชี้ โดยทางสกอตแลนด์ยาร์ดออกคำเตือนว่า ใครก็ตามที่ละเมิดต่อกฎการรักษาความปลอดภัยต้องได้รับโทษอย่างหนัก

และในวันเสาร์(14) พบว่ามีกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์รวมตัวกันในกรุงลอนดอน เกิดขึ้นหลังวันกลุ่มคนต่อต้านผู้นำสหรัฐฯที่รวมตัวกันในกรุงลอนดอนที่มีการคาดการณ์ว่า ผู้ประท้วงต้านทรัมป์มีจำนวนมากกว่า 100,000 คนขึ้นไป

















กำลังโหลดความคิดเห็น