เอพี - คนงานเหมืองรายหนึ่งในชิลีที่เคยผ่านประสบการณ์เลวร้ายติดอยู่ใต้ดินนานกว่า 2 เดือน ออกมาให้กำลังใจทีมฟุตบอลเยาวชน “หมูป่า” ที่กำลังเผชิญชะตากรรมคล้ายกันในอีกซีกโลกหนึ่ง พร้อมแนะนำให้น้องๆ ต้องคอยช่วยเหลือกันและกัน และเตรียมพร้อมทางจิตใจรอความช่วยเหลือ
โอมาร์ เรย์กาดาส คนงานเหมืองแห่งหนึ่งในชิลี ที่เคยติดอยู่ใต้ดินพร้อมกับคนงานเหมืองรายอื่นๆ อีก 32 คนเมื่อปี 2010 นานกว่า 69 วัน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอพี เกี่ยวกับกรณี 13 ชีวิตทีมฟุตบอลเยาวชนหมูป่า อะคาเดมี ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย
“เป็นเรื่องที่น่ากลัวและเสียขวัญสำหรับเด็กเหล่านี้ซึ่งยังมีอายุน้อยมาก แต่เชื่อว่าเด็กทุกคนซึ่งมีสภาพร่างกายแข็งแกร่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จะมีความสามัคคีและให้ความช่วยเหลือกันเป็นอย่างดีจนสามารถกลับสู่โลกภายนอกได้อีกครั้ง” เขากล่าวกับเอพี
เด็ก 12 คนและโค้ชทีมฟุตบอล ติดอยู่ภายในถ้ำที่ถูกน้ำท่วมสูงตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน ก่อนที่พวกนักกระดาน้ำจะพบตัวพวกเขาเมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ (2 ก.ค.) และมีความเป็นไปได้ว่าทีมช่วยเหลืออาจจำเป็นต้องให้เด็กใช้ชุดดำน้ำแล้วดำน้ำออกมา
ประสบการณ์ที่ทุกคนประสบร่วมกันนานกว่า 9 วันนั้นจะเป็นเรื่องฝังใจไปอีกนาน การพยายามกลับเข้าสู่สิ่งแวดล้อมปกติให้เร็วที่สุดด้วยความสนับสนุนจากครอบครัวและจิตแพทย์เป็นสิ่งสำคัญ และเรย์กาดาสกล่าวถึง “โค้ชเอก” เอกพล จันทะวงษ์ วัย 25 ปี ซึ่งติดอยู่ภายในถ้ำกับกลุ่มเด็กทั้ง 12 คนด้วย ว่าจะเป็น “แบบอย่างที่ดี” ในการสร้างแรงบันดาลใจและเป็นกำลังใจให้แก่เด็กกลุ่มนี้ต่อไป
“มันเป็นเรื่องยากที่จะมอบคำแนะนำแก่พวกเขา” เขากล่าว “แต่พวกเขาควรคิดอยู่อย่างเดียวคือเรื่องออกจากถ้ำและกลับไปอยู่กับครอบครัว”
เรย์กาดาส กับคนงานเหมืองอีก 32 คน ติดอยู่ในเหมืองใต้ทะเลทรายอาตากามา ประเทศชิลี ลึกลงไปใต้ดิน 700 เมตร และได้รับการช่วยเหลือด้วยการหย่อนแคปซูลที่สร้างขึ้นมาพิเศษลงไปข้างล่าง แล้วดึงพวกเขาขึ้นสู่พื้นผิวทีละคน
ทั้งนี้ เรย์กาดาสเล่าถึงช่วงเวลาที่เขาติดอยู่ภายในเหมืองว่า ความศรัทธาและการตั้งจิตอธิษฐาน ตลอดจนการสร้างเสริมกำลังใจให้กันและกัน เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บรรดาคนงานเหมืองรอดชีวิตมาได้ และเขาบอกกับเด็กๆ ว่า “อย่าอายที่จะกลัว เพราะเราก็กลัวเหมือนกัน น้ำตาเราไหลพราก แม้เป็นผู้ใหญ่ก็ตาม เราร้องไห้”