เอเอฟพี/มาร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ลงแรงในวันพฤหัสบดี (21 มิ.ย.) หลังดูเหมือนโอเปกและพันธมิตรขยับเข้าใกล้ข้อตกลงเพิ่มกำลังผลิต ส่วนวอลล์สตรีทดิ่งท่ามกลางความกังวลต่อสงครามการค้า ขณะที่ทองคำปรับลดพอสมควร
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 17 เซ็นต์ ปิดที่ 65.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.69 ดอลลาร์ ปิดที่ 73.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
คณะผู้แทนจากโอเปกและประเทศนอกโอเปกที่นำโดยรัสเซีย กำลังรวมตัวกันที่กรุงเวียนนา เพื่อหารือเกี่ยวกับอนาคตของข้อตกลงลดกำลังผลิต ซึ่งบังคับใช้มาตั้งแต่เดือนมกราคม 2017
รัสเซียและซาอุดีอาระเบีย 2 ชาติผู้ผลิตรายใหญ่ของโลก พยายามผลักดันให้ได้มติเพิ่มกำลังผลิตในการประชุมซึ่งจะมีขึ้นในวันศุกร์ (22 มิ.ย.) ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากอิหร่าน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงค่ำวันพุธ (20 มิ.ย.) ไบจาน ซันกาเนห์ รัฐมนตรีพลังงานของอิหร่าน บ่งชี้ว่าเขาอาจยอมยกมือสนับสนุนมติเพิ่มกำลังผลิตหากว่าเป็นการปรับเพิ่มแค่เล็กน้อย ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นการยอมเปิดทางให้พักข้อตกลงลดกำลังผลิตชั่วคราว
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (21 มิ.ย.) ปิดลบแรง โดยดาวโจนส์ขยับลงเป็นวันที่ 8 ติดต่อกัน จากแรงฉุดของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า
ดาวโจนส์ ลดลง 196.10 จุด (0.80 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 24,461.70 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 17.56 จุด (0.63 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,749.76 จุด แนสแดค ลดลง 68.56 จุด (0.88 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,712.95 จุด
หุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถดิ่งลงถ้วนหน้า หลังจากค่ายรถหรู เดมเลอร์ ปรับลดประมาณการผลกำไรในปี 2018 โดยกล่าวโทษมาตรการรีดภาษีรถยนต์ที่ส่งออกจากสหรัฐฯ ไปยังจีน
บริษัทรถยนต์สัญชาติเยอรมนีแห่งนี้มีโรงงานผลิตหลักหลายแห่งในสหรัฐฯ และส่งออกไปจีน ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่ง หลังจีนมีแผนขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์จากอเมริกา ตอบโต้กรณีสหรัฐฯ รีดภาษีสินค้านำเข้าจากจีน
เจนเนอรัล มอเตอร์ส ลดลง 2.0 เปอร์เซ็นต์, ฟอร์ด ปิดลบ 1.4 เปอร์เซ็นต์ และเทสลา มอเตอร์ส ปิดลบ 4.1 เปอร์เซนต์
ส่วนราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (21 มิ.ย.) ปิดลบเล็กน้อย หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 4.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,270.50 ดอลลาร์ต่ออออนซ์