รอยเตอร์ - หน่วยงานค้นหาและช่วยชีวิตของอินโดนีเซียประกาศตัวเลขผู้สูญหายจากเหตุเรือเฟอร์รีล่มกลางทะเลสาบโตบา (Lake Toba) บนเกาะสุมาตราเพิ่มขึ้นเป็น 180 รายวันนี้ (20 มิ.ย.) ซึ่งมากกว่าจำนวนผู้โดยสารที่เรือจะรับได้ถึง 3 เท่า
บูเดียวัน หัวหน้าสำนักงานค้นหาและช่วยชีวิตแห่งชาติ (BASARNAS) ประจำเมืองเมดาน ระบุว่า มีผู้โดยสารรอดชีวิตทั้งหมด 18 ราย และพบศพแล้วอย่างน้อย 3 ราย
“จากข้อมูลที่มีอยู่ เรายังต้องค้นหาผู้สูญหายอีก 180 คน” บูเดียวัน กล่าว พร้อมระบุว่ามีญาติผู้โดยสารเข้ามาแจ้งเหตุคนหายเพิ่มขึ้นหลายราย
นักประดาน้ำ 25 คนรวมถึงนาวิกโยธินได้ดำลงไปค้นหาร่างผู้สูญหายซึ่งคาดว่าจะยังติดอยู่ภายในเรือ และมีการส่งโดรนใต้น้ำ (ROV) ลงไปช่วยค้นหาด้วยอีกแรงหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม โดรนรุ่นนี้สามารถลงไปได้ถึงระดับความลึกเพียง 380 เมตร ในขณะที่ทะเลสาบโตบานั้นมีความลึกสูงสุด 450 เมตร
เรือเฟอร์รีซึ่งต่อด้วยไม้ลำนี้ประสบอุบัติเหตุล่มกลางทะเลสาบโตบาเมื่อวันจันทร์ (18) ท่ามกลางสภาพอากาศที่เลวร้าย และหน่วยกู้ภัยสามารถช่วยชีวิตผู้โดยสารขึ้นมาได้เพียง 18 คนในช่วงเย็นวันเดียวกัน
วิดยา (Widya) หนึ่งในผู้รอดชีวิต ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์เมโทรทีวีว่า เธอต้องสูญเสียสมาชิกในครอบครัวไปหลายคน หลังจากที่เรือถูกคลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้าใส่
บูดี การ์ยา รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมอินโดนีเซีย ยืนยันว่าพนักงานสอบสวนกำลังเร่งสืบหาต้นตอของโศกนาฏกรรมครั้งนี้
“เราเชื่อว่าอาจจะเกิดพายุงวงช้าง (waterspout) ซึ่งทำให้คลื่นลมแรงจนเรือขาดความเสถียร และสร้างความตื่นตระหนกแก่ผู้โดยสาร” เขาให้สัมภาษณ์
ศรี ฮาร์เดียนโต เจ้าหน้าที่กระทรวงคมนาคมอิเหนา ระบุว่า เรือเฟอร์รีลำนี้จุผู้โดยสารได้ไม่เกิน 60 คน แต่ขณะเกิดเหตุเรือบรรทุกคนเกินพิกัด รวมถึงรถจักรยานยนต์อีกหลายสิบคัน
ทะเลสาบโตบาตั้งอยู่เหนือปากปล่องภูเขาไฟเก่าที่เคยระเบิดอย่างรุนแรงเมื่อราว 75,000 ปีมาแล้ว จนกลายมาเป็นทะเลสาบที่มีความลึกถึง 450 เมตร
ทะเลสาบที่สวยงามแห่งนี้กินพื้นที่กว้างขวางถึง 1,145 ตารางกิโลเมตร และมีเรือเฟอร์รีรับ-ส่งผู้โดยสารไปยังเกาะซาโมซีร์ (Samosir) ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม
ล่าสุด ทางการอิเหนายังไม่ประกาศว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติสูญหายด้วยหรือไม่
อุบัติเหตุเรือล่มเกิดขึ้นเป็นประจำในอินโดนีเซีย โดยเฉพาะในเทศกาลตรุษอีดิลฟิฏรีที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยช่วงเวลานี้ชาวมุสลิมหลายล้านคนจะเดินทางกลับไปยังบ้านเกิดเพื่อพบปะญาติมิตร หลังสิ้นสุดการถือศีลอดในเดือนรอมฎอน