รอยเตอร์ - กองทัพเรือรัสเซียในภูมิภาคทะเลดำยกระดับเฝ้าระวังขั้นสูงสุด เพื่อคอยขัดขวางยูเครนจากความพยายามปั่นป่วนศึกฟุตบอลโลก ซึ่งเปิดฉากขึ้นแล้วในรัสเซียในวันพฤหัสบดี (14 มิ.ย.) จากการเปิดเผยของแหล่งข่าวใกล้ชิดกองทัพหมีขาว
พวกเจ้าหน้าที่รัสเซียเชื่อว่ายูเครนกำลังเสริมกำลังทหารในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อทำการยั่วยุระหว่างทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก อย่างไรก็ตาม ทางรอยเตอร์ระบุว่าไม่สามารถยืนยันได้ว่าคำกล่าวอ้างนั้นเป็นจริงหรือไม่และไม่มีคำยืนยันในเรื่องนี้จากฝั่งเจ้าหน้าที่ในเคียฟ
แหล่งข่าวใกล้ชิดกับกองทัพรัสเซียระบุว่ากองกำลังของพวกเขารอบๆ แหลมไครเมียในทะเลดำ อยู่ภายใต้คำสั่งให้อยู่ในสถานะพร้อมประจัญบานขั้นสูงสุด ขณะที่แหล่งข่าวอีก 2 แห่งบอกว่าการตัดสินใจดังกล่าวเกี่ยวข้องกับทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก
“สืบเนื่องจากฟุตบอลโลกและความคาดหมายว่าอาจมีการยั่วยุโดยยูเครนรอบๆชายฝั่งไครเมีย พวกผู้บัญชาการได้ตัดสินใจเพิ่มระดับความพร้อมทางทหารของกองเรือ” แหล่งข่าวรายหนึ่งระบุ
กระทรวงกลาโหมรัสเซียยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อรายงานข่าวดังกล่าว
แหล่งข่าวบอกว่าการระดมพลนั้นรวมไปถึงการประจำการกองเรือพิเศษไปยังทะเลอาซอฟ สาขาของทะเลดำ บริเวณที่รัสเซียและยูเครนมีชายฝั่งร่วมกัน นอกจากนี้แล้วยังได้เพิ่มเที่ยวบินลาดตระเวนพิเศษของกองทัพเรืออีกหลายเที่ยว ขณะที่กองกำลังพิทักษ์ชายฝั่งมีส่วนร่วมในภารกิจครั้งนี้ด้วย
“มีความกังวลว่ายูเครนอาจจัดฉากการยั่วยุระหว่างฟุตบอลโลก” แหล่งข่าวฝายการบินของกองทัพเรือรัสเซียระบุ “สำหรับเหตุผลนั้น เราจำเป็นต้องพุ่งสมาธิไปที่กองกำลังในทะเลอาซอฟ ซึ่งจะคอยขัดขวางความพยายามล่วงล่ำอาณาเขตทางน้ำของรัสเซีย”
ส่วนแหล่งข่าวรายที่ 3 บอกว่ากองกำลังพิทักษ์ชายฝั่งของกองทัพเรือ ถูกสั่งให้อยู่ในสถานะเตรียมพร้อมขั้นสูงสุดไปจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม หรือราว 2 สัปดาห์หลังจากฟุตบอลโลกสิ้นสุดลง
กองทัพเรือยูเครนและสำนักงานของโอเลกซานเดอร์ ทูร์ชีนอฟ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติยูเครน ไม่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการประจำการทางนาวีของรัสเซีย
เมื่อถูกถามว่า ยูเครน กำลังวางแผนยั่วยุหรือไม่ สำนักข่าวของ ทูร์ชีนอฟ กล่าวในถ้อยแถลงที่ส่งถึงรอยเตอร์ ระบุว่า “โดยไม่คำนึงถึงเสียงคร่ำครวญจากพวกทหารรับร้างรัสเซียผู้ขาดเขลาและคำขู่ของประธานาธิบดีรัสเซีย กองทัพยูเครนจะดำเนินการในแนวทางที่เหมาะสมต่อภัยคุกคามเหล่านั้น”
รัสเซียและยูเครนตกอยู่ท่ามกลางความตึงเครียดทางทหารมาตั้งแต่ต้นปี 2014 หลังมอสโกผนวกไครเมียของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน และไม่นานหลังจากนั้นพวกกบฏแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่มอสโกก็จับอาวุธขึ้นสู้ต่อต้านการปกครองของเคียฟทางภาคตะวันออกของยูเครน
การยกระดับเฝ้าระวังขั้นสูงสุดมีขึ้นแม้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เคยบอกว่าฟุตบอลโลกคือโอกาสที่รัสเซียและตะวันตกจะวางเรื่องการเมืองเอาไว้ก่อนและมุ่งให้ความสนใจแต่กี