ไม่เข็ด! มหาเธร์ผุดโครงการรถยนต์แห่งชาติอีก หลัง “โปรตอน” เหลวไม่เป็นท่า

เอเอฟพี – นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของมาเลเซีย มหาเธร์ โมฮัมหมัด เผยความเป็นไปได้ของโครงการรถยนต์แห่งชาติ ถึงแม้ว่าความพยายามเดียวกันนี้จะเคยสร้างปัญหามาแล้วในสมัยที่เขาดำรงตำแหน่งเมื่อหลายสิบปีก่อน

“เราต้องกลับไปสู่แนวคิดรถยนต์แห่งชาติอีกครั้ง” เขาบอกในการแถลงข่าวที่กรุงโตเกียวในระหว่างการเยือนต่างประเทศครั้งแรกของเขานับตั้งแต่ชนะการเลือกตั้งเมื่อเดือนที่แล้ว

“เป้าหมายของเราคือการเริ่มโครงการรถยนต์แห่งชาติอีกครั้งหนึ่ง อาจด้วยความช่วยเหลือจากหุ้นส่วนของเราในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราต้องการเข้าถึงตลาดโลก” เขากล่าวก่อนหน้านี้ ที่การประชุมในโตเกียว

โครงการรถยนต์แห่งชาติมีประวัติศาสตร์อันน่าขื่นขมในมาเลเซียซึ่งผลิตรถยนต์โปรตอนตั้งแต่ปี 1983 ในฐานะส่วนหนึ่งแผนสร้างประเทศอุตสาหกรรมของมหาเธร์ที่เป็นนายกรัฐมนตรีในเวลานั้น

โปรตอนขึ้นชื่อเรื่องความไร้แนวคิดสร้างสรรค์และคุณภาพไม่ได้มาตรฐาน สุดท้ายลงเอยด้วยการถูกซื้อโดยบริษัทยานยนต์ยักษ์ใหญ่จากจีน Geely ที่เข้าถือหุ้นใหญ่ในปี 2017

ในวันนี้ (11) มหาเธร์ดูเหมือนจะไม่สนใจประวัติศาสตร์ดังกล่าว และระบุว่า มาเลเซียจะ “ขอการสนับสนุนและทักษะความรู้จากประเทศอื่นๆ” ในการพิจารณาผลิตรถยนต์ของตัวเองใหม่อีกครั้ง

เขากล่าวว่า มาเลเซีย “มีทักษะและเทคโนโลยีเกือบทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบและผลิตรถยนต์ใหม่” สืบเนื่องจากความร่วมมือหลายสิบปีกับบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ ของญี่ปุ่น

“อย่างไรก็ตาม มีบางชิ้นส่วนของรถยนต์ที่มีค่าใช้จ่ายสูงอย่างมากในการพัฒนา เราต้องการนำเข้ามาบางชิ้นส่วนที่มีราคาแพงจากประเทศอื่นรวมถึงจากญี่ปุ่น”

หน่วยงานลงทุนภาครัฐของมาเลเซียขายหุ้นของพวกเขาในโปรตอนให้กับผู้จำหน่ายและนำเข้ารถภายในประเทศรายหนึ่งเมื่อปี 2012 แต่บริษัทยานยนต์แห่งนี้ก็ยังประสบปัญหา ถึงแม้ว่าจะมีความร่วมมือกับผู้ผลิตยานยนต์ชื่อดังหลายแห่งก็ตาม

มหาเธร์เป็นประธานของโปรตอนจนถึงปี 2016 และการมีส่วนร่วมในบริษัทของเขานำมาซึ่งเสียงวิจารณ์จาก นาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีในเวลานั้นซึ่งพ่ายแพ้การเลือกตั้งเมื่อเดือนที่แล้ว

เมื่อปี 2016 รัฐบาลเห็นชอบมอบเงินช่วยเหลือ 384 ล้านดอลลาร์ให้กับบริษัทแห่งนี้แต่เตือนว่า รัฐบาลจะไม่ให้เงินกับบริษัทนี้อีก

เมื่อปีที่แล้วบริษัท Geely ของจีนซื้อหุ้น 49.9 เปอร์เซ็นต์ในโปรตอนหลังจากกระบวนการประกวดราคาที่ทำให้เห้นบริษัทต่างๆ รวมถึงผู้ผลิตยานยนต์สัญชาติฝรั่งเศส PSA Peugeot Citroen ให้ความสนใจ