xs
xsm
sm
md
lg

In Clips :“อีโบลา” ยอดดับในสาธารณรัฐคองโกเพิ่มเป็น 12 ราย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอพี - กระทรวงสาธารณสุขสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกออกแถลงการณ์ระบุเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 1 รายล่าสุด ส่งผลทำให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดจากโรคอีโบลาเพิ่มเป็น 12 ราย และมี 35 เคสที่ได้รับการยืนยันว่าป่วยติดเชื้อไวรัสอีโบลา

เอพีรายงานเมื่อวานนี้(27 พ.ค)ว่า ผู้เสียชีวิตรายล่าสุดอยู่ใน อีโบโก(Iboko) พื้นที่ห่างไกลในจ. เอกาเตอร์ (Équateur) ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ อ้างอิงจากแถลงการณ์กระทรวงสาธารณสุขสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกที่ออกมาในวันอาทิตย์(27)

ทั้งนี้พบว่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ระบุตัวกลุ่มคนที่ได้ติดต่อกับคนไข้ที่ได้รับการยืนยันว่าป่วยด้วยโรคอีโบลาใน 3 โซนในจ.เอกาเตอร์ ได้แก่ พื้นที่ห่างไกลของบีโกโร( Bikoro )และอีโบโก และเมืองเมอบานดากา(Mbandaka) เมืองเอกของจังหวัดที่มีประชากรอาศัยจำนวน 1.2 ล้านคน และยังเป็นฮับของการคมนาคมของแม่น้ำคองโก

ด้านรัฐมนตรีสาธารณสุขได้ออกเดินทางด้วยฮ.ในวันเสาร์(26)ไปยังพื้นที่บีโกโรและอีโบโก เพื่อตรวจดูการส่งกำลังเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่จะทำหน้าที่ติดตามหากลุ่มคนที่ได้ติดต่อกับผู้ป่วยอีโบลา และรักษาคนเหล่านี้ด้วยวัคซีนทดลอง

โดยเอพีชี้ว่า รัฐมนตรีสาธารณสุขสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก โอลี อีลุนกา(Oly Ilunga) เดินทางไปพร้อมกับตัวแทนองค์การอนามัยโลก WHO และจากองค์การสหประชาชาติ ซึ่งพบว่าโครงการรทดลองวัคซีนรุ่นทดลองโรคอีโบลาจะเริ่มต้นขึ้นในวันจันทร์(28)ในพื้นที่ห่างไกลทั้งสองนี้ ซึ่งก่อนหน้าได้มีการเริ่มใช้วัคซีนทดลองในเมืองเมอบานดากา ซึ่งมีผู้ป่วยอีโบลา 4 รายได้รับการยืนยันภายในเมืองแห่งนี้ และมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจำนวน 100 รายได้รับวัคซีนทดลองป้องกันอีโบลา

อ้างอิงจาก WHO ระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้มีความสำคัญเป็นอย่างมากในการตัดสินว่า จะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดโรคอีโบลาในประเทศได้หรือไม่ ซึ่งปัจจัยที่ซับซ้อนรวมไปถึง การแพร่ระบาดเข้าไปสู่เมืองใหญ่ที่มีผู้คนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น เอพีชี้

และนอกจากนี้ยังมี จากการที่มีเจ้าหน้าที่การแพทย์ติดเชื้อ และการเกิดขึ้นของศูนย์กักกันโรคระบาดจำนวน 3-4 แห่ง ทำให้การค้นหาและการเฝ้าระวังกลุ่มผู้สัมผัสกับผู้ป่วยอีโบลานั้นกลายเป็นเรื่องยากมากขึ้น

ทั้งนี้พบว่าองค์การอนามัยโลก WHO ใช้วิธีรักษาด้วย "กระบวนการวัคซีนแบบวงล้อม" (ring vaccination approach) ซึ่งจะมีเป้าหมายกลุ่มคนรู้จักของผู้ป่วยอีโบลาหรือต้องสงสัยว่าป่วยด้วยโรคนี้ และกลุ่มคนรู้จักของคนเหล่านี้อีกทอด โดยพบว่ามีกลุ่มเป้าหมายที่ถูกชี้ตัวมากกว่า 600 คนในเวลานี้

และพบว่า WHO ยังแร่งในความพยายามร่วมกับ 9 ประเทศเพื่อนบ้านสาธารณสุขสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกจำนวน 9 ประเทศในการป้องกันไม่ให้โรคอีโบลาระบาดข้ามพรมแดนออกไปได้ โดยชี้ว่า มีความเสี่ยงสูงต่อการระบาดระดับภูมิภาค และได้เตือนในการเดินทางข้ามประเทศและการจำกัดทางการค้า

เอพีรายงานว่า การระบาดล่าสุดถือเป็นการระบาดครั้งที่ 9 ในสาธารณสุขสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกนับตั้งแต่ปี 1976 ซึ่งอัตราการตายของโรคสูงถึง 90% ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์









กำลังโหลดความคิดเห็น